วันศุกร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2560

หลุดพ้นไปเสียจากความหลุดพ้น

ในภาพอาจจะมี 1 คน, ข้อความ

“หลุดพ้นไปเสียจากความหลุดพ้น”

เราเห็นความทุกข์

เราก็อยากจะหลุดพ้นจากความทุกข์

ถ้าเรามองเห็นความเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏสงสาร
เราก็อยากจะหลุดพ้น
ออกไปเสียจากความเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏสงสาร
เราอยากจะหลุดพ้น
แล้วเราก็พยายามทำตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
ที่ว่าจะหลุดพ้นอย่างไร ก็ทำ–ทำ–ทำ
ทีนี้ 
มันหลุดพ้นออกไปไม่ได้
เพราะว่าเรามันมี 
"ตัว" 
ที่อยากจะหลุดพ้น
เรารักเรา เราอยากจะหลุดพ้น
เราก็หมายมั่นอยู่ที่ความหลุดพ้น
เราหมายมั่นอยู่ที่ความหลุดพ้นของเรา
เมื่อเราหมายมั่นอยู่ที่ความหลุดพ้น
ชนิดที่จะเอาเป็นของเราให้ได้
ความหลุดพ้นอย่างนี้ 
มันไม่ใช่ความหลุดพ้น
เพราะไปติดอยู่ที่
ความหมายของคำว่าหลุดพ้น
หลุดพ้นจากที่นี่ 
แต่ไปติดอยู่ในความหมายของคำว่า หลุดพ้น
ไปติดอยู่ในคุณค่าความวิเศษวิโสของความหลุดพ้น
เช่นจะเรียกว่านิพพาน เป็นความหลุดพ้น
วิมุตติ–เป็นความหลุดพ้น
ก็ไปหมายมั่นอยู่ที่ค่า
หรือ
ราคาของวิมุตติหรือนิพพาน
โดยตัวเราจะเป็น 
"ผู้ได้"
อย่างนี้ไม่ใช่ความหลุดพ้น...
มันชอบใจเหลือเกิน
แล้วมันก็ไปติดอยู่ที่นั่น
แล้วมันจะหลุดพ้นได้อย่างไร ?

“หลุดพ้นเสียจากความหลุดพ้น”
กันเถิด
ความหลุดพ้นของตัวกูมีไม่ได้ดอก
ถ้ามีตัวกูแล้วมันหลุดพ้นไม่ได้

พุทธทาสภิกขุ
...............................

อันวิบาก ก่อเกิด เมื่อยึดมั่น

ไม่รู้ทัน ความจริง ในวิถี
หลงไขว่คว้า เอามา ทุกวิธี
มีชั่วดี คลุกเคล้า เศร้าวิญญา
...............................
เมื่อตื่นรู้ ในความจริง แห่งสัจจะ
ตามองค์พระ พุทธา พาคลายหลง
ไม่ยึดติด ทุกสิ่ง ที่ดำรง
จึงจะตรง ต่อเนื้อหา พระนิพพาน
...............................
สรรพสิ่ง ทั้งหลาย แค่อาศัย
แม้กายใจ ก็เปลี่ยนแปลง ยากคาดหวัง
ปลงปล่อยวาง ในอัตตา คือพลัง 
เพื่อหยุดยั้ง กรรมวิบาก มาลากไป
...............................
เธอเกิดมา มีอะไร ติดมาบ้าง
ทุกสิ่งอย่าง ว่างเปล่า ไม่ใช่หรือ
มัวหลงยึด เกาะกุม ไว้ในมือ 
แล้วที่ถือ มองให้ดี มีอะไร
...............................
เพราะเหลือกู
จิตพุทธะ พุทธะจิต บริสุทธิ
อันวิสุทธิ์ อยู่แล้ว ในใจเจ้า
ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องติด ไม่ต้องเอา
ไม่ต้องเฝ้า ไม่ต้องคอย หาอะไร

ไม่ต้องยึด ไม่ต้องเกาะ ในทุกสิ่ง
ไม่ต้องวิ่ง ไม่ต้องหา เพราะความหลง
เพียงยุติ ตัวคอยซ้อน ที่ดำรง
ให้ปลดปลง ทุกสิ่งอย่าง ออกจากใจ


ให้วางเรา แต่มิใช่ ไปวางมัน
ต้องรู้ทัน ตัวกู ที่พาหลง
เผลอวางมัน แต่เสร็จกู ยังมั่นคง
ก็ต้องลง เวียนเกิดตาย เพราะเหลือกู



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เปิดพลังแห่ง ความสุข.............

การให้เกียรติสิ่งรอบตัวถือเป็นการเปิดพลังแห่งทัศนคติใหม่ และยังเสริมการมองเห็นทัศนวิสัย ให้ก้าวสู่โลกที่มีคุณค่า และนอกจากนี้ยังทำให้คุณตื่นขึ้นมาเห็นความจริงรอบตัว ที่คุณอาจจะไม่เคยเห็น และรับรู้คุณค่าของสิ่งรอบตัวเรา หรือสังคมของเรา แล้วเรียนรู้ที่จะรักในสิ่งที่ควรรัก รักในสิ่งที่ให้ความรู้สึกดีๆที่ตอบแทนมาอย่างมีคุณค่าจริงๆ มันจะช่วยฉุดดึงให้คุณหลุดออกจาก อดีตที่เจ็บช้ำหรือแม้แต่ความยึดติดใดๆก็ตาม เชื่อหรือไม่ว่าสิ่งรอบตัวบางอย่างหรือหลายๆอย่างนั้น คุณอาจไม่เคยแยแส แม้แต่ก่อนที่จะพบเรื่องเศร้าด้วยซ้ำ
คำว่า “การให้เกียรติ” คำๆนี้คือวิถีคือครรลองที่สังคมของมนุษย์ที่มีจิตใจสูงในทางโลก ย่อมที่จะพัวพันกับภาวะของการให้เกียรติอยู่กันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการให้เกียรติต่อ บุคคล ให้เกียรติต่อสัญลักษณ์ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีค่าทางจิตใจ ให้เกียรติต่อสิ่งที่ยึดถือ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีบุญคุณ ในชีวิตเราและชีวิตท่านวันนี้คุณให้เกียรติคนที่คุณ "เกลียดชัง" พวกเขาแล้วหรือยัง.......

" โลกนี้จะร่มเป็นสุข อยากให้โลกนี้ดีงาม ให้เริ่มต้นที่ ใจ ตนเองเป็นอันดับแรก "

Glitter Photos

พระเชนเรซิก อวโลกิเตศวร มหาโพธิสัตว์

พระเชนเรซิก อวโลกิเตศวร มหาโพธิสัตว์