#วิชาเคลื่อนย้ายจักรวาลพระอมิตตภะตถาคตเจ้า#
- ก่อนนั้น...อาม่าไม่เข้าใจ และงุนงง สงสัยต่อที่มาของตน และสิ่งที่มาพลิกชีวิตตน จนมามีวันนี้ในที่สุด
- #อาม่ามิได้เสาะแสวงหา แต่ถูกพลิกชีวิตด้วยมือที่มองไม่เห็น สิ่งนี้เรียกว่า การทวงสัจจะ#
- และได้รับคำตอบทีละเปาะๆจนสิ้นสงสัยในที่สุด เช่นกัน
- จากการศึกษาคัมภีร์มรณศาสตร์ของทิเบต สิ่งหนึ่งที่อาม่าได้รับคำตอบคือ วิชาเคลื่อนย้ายจักรวาลของพระอมิตตภะ ที่ทรงมาประสิทธิ์ให้อาม่าในค่ำคืนหนึ่ง ตอนอาม่าเข้าฌานสมาบัติ จนช่วยเหลือเวไนยได้นั้น
- คือหนึ่งในอภิญญาของลามะทิเบต
- ซึ่งจริงๆก็เป็นของเก่าของอาม่านั้นเอง แค่ได้รับคืนมาด้วยการปลุกให้จิตที่หลับไหล หลงลืมของอาม่าตื่นขึ้นมา
- ทุกดวงจิต ล้วนมีเจตน์จำนงก่อนมาเกิด
- คนที่ทำหน้าที่ตรงนี้ได้ก็เพราะเคยอธิษฐานขอ “อภิญญาดูดกรรม” เพื่อดึงดูดกรรมของมวลสัตว์มาสู่ตนเอง ให้กรรมของมวลสัตว์เบาบางลง
- การใช้พลังเคลื่อนย้ายจักรวาลพระอมิตภะนี้ สามารถขจัดความบอบช้ำทางใจ, คุณไสย, มนต์ดำ, พลังมารและอสูรที่ครอบงำผู้อื่นได้
- แต่ไม่อาจขจัดกิเลสแทนให้ผู้อื่นได้ เพราะเรื่องของธรรมในจิตเป็นเรื่องของบุคคล แต่ทำให้อบอุ่นได้ คลายได้ เย็นได้ นิ่มนวลลงได้เมื่อได้พบเจอกับอาม่า
- **ซึ่งอาม่าเองก็สอนธรรมะ เพื่อขจัดล้างอวิชชาในจิตมนุษย์ควบคู่ไปด้วยเสมอ
- สมาธิจิต ที่ช่วยดึงพลังจักรวาลจากพระอมิตตภะลงมาขจัดพลังลบ และดึงพลังจักรวาลด้านบวก มาประจุให้เวไนยแทน
- เป็นหลักการให้และรับนี้กล่าวคือ
- เราจะรับสิ่งที่ไม่ดี อาทิโรคภัยไข้เจ็บ วิบากกรรม เข้ามาในตัวเรา
- แล้วประสิทธิ์อานุภาพสิ่งดีๆแทน
- เวลาที่อาม่าวางฝ่ามือบนศีรษะเวไนยที่อาม่ารักษา จะมีความร้อนขึ้นมาจากกระหม่อมเวไนย ปะทะ ฝ่ามืออาม่าจนร้อนผ่าวไปหมด
- แต่อาม่ายังไปไกลกว่านั้นอีก คือพลังทิพย์ในธาตุขันธ์ยังดูดภพภูมิ ลดพลังด้านลบของโลกลงอัตโนมัติ อยู่ที่ไหน ไม่ว่ากินข้าว สระผม นั่งคุยกับลูกหลาน เดินทาง นั่งบนรถ ก็จะดูดเคลียร์ล้างตลอด
- #ที่ลูกๆมากอดอาม่า อาม่าก็จะดูดซับถ่ายเทสิ่งอัปมงคลทั้งมวลมาสู่อาม่า#
- ทั้งนี้ ระบบจิตวิญญาณ (ลมปราณ) ในร่างกายของผู้ใช้พลังนี้ต้องมีความพร้อมมากพอที่จะกระทำได้ หาไม่เช่นนั้นแล้ว พลังด้านลบ เช่น พลังมารจะครอบงำจิตใจของผู้ฝึก จนทำให้ผู้ฝึกกลายเป็นมารไปได้เช่นกัน
- วิชาเคลื่อนย้ายกรรมขั้นสูงนี้จิตผู้ฝึกต้องเข้าสู่ภาวะสุญญตาได้เสียก่อน
- เพราะพลังงานลบอาทิ ความเจ็บไข้ วิบากกรรม เจ้ากรรมนายเวร คุณไสยหรือ ความทุกข์ทั้งหมดทั้งมวลของดวงจิตอื่นนั้น
- จะเข้ามาที่ธาตุขันธ์ของเรา หัวใจของเรา และสลายตัวเปลี่ยนแปลงเป็นพลังงานของโพธิจิตขั้นสูงและการรู้แจ้ง
- แต่...ยังมีพลังงานบางส่วนที่ตกค้างอยู่ดี
- บ่อยครั้ง ที่ลูกศิษย์ต้องดูแลอาม่าหลังเคลียร์วิบากกรรมให้เวไนย หรือขนรื้อภพภูมิใหญ่ๆ
- อาม่านั้น เคยประกาศว่าจะสอน ให้ลูกศิษย์แต่อาม่าก็รู้ว่ายังไม่ถึงเวลาและยังต้องคัดเลือกจริงๆ เพราะปัญญาบารมียังไม่สว่างพอ ก็ต้องรับกรรมแทนคนอื่นแน่นอน
- แต่เวลานี้ มีบางคนที่ได้รับพื้นฐานไป จนสำเร็จได้ฝ่ามือพระยูไล แต่ยังไม่รู้จะใช้อย่างไร
- ขอให้ลูกที่สนใจวิชานี้ทำวิปัสสนา จนแจ้งในธรรมในระดับหนึ่ง แล้วอาม่าจะต่อยอดให้
- ดังนั้น ผู้ที่ปรามาส ล่วงกรรมอาม่า คงจะไม่ต้องบอกว่า ว่าจะเป็นอย่างไรในอนาคตกาล
- *** เพราะผู้ที่เอาธาตุขันธ์ตนเองรองรับความเจ็บปวดแทนผู้อื่น หัวใจและบารมีย่อมบริสุทธิ์ ระดับปรมัตถ์บารมี คือสละเลือดเนื้อชีวิตบำเพ็ญ
- #ตย เช่น องค์กรรมปะที่16 ใช้วิชานี้ดูดกรรมของเวไนยใน รพ จนท่านสิ้นลมหายใจ
- อาม่าอาจอโหสิให้อภัยเป็นทาน แต่กฏของพลังงานหรือกรรม ย่อมรอส่งผลแน่นอน
- #อาม่า#พระเชนเรซิก
"อาม่าจะขออยู่เพื่อ ดูแลลูกหลาน"
พระโพธสัตว์คือผู้มีความเบื่อหน่ายอย่างแรงกล้าต่อสังสารวัฏ
แต่ก็เป็นผู้หันพักตร์เข้าหาสังสารวัฏ
พระโพธิสัตว์ศรัทธาปสาทะเลื่อมใสยินดียิ่งต่อพระนิพพาน
แต่ก็เป็นผู้หันปฤษฎางค์(หลัง)ให้แก่พระนิรวาณ(นิพพาน)
พระโพธิสัตว์เข้าใจและรู้จักต่อสรรพกิเลส
แต่ก็ไม่ควรสละกิเลสเสียให้สิ้น
พระโพธิสัตว์แม้จะเป็นผู้รู้ชัดในธรรมทั้งหลายทั้งปวง
แต่ก็..จะไม่ด่วนดับสิ้น
พระโพธิสัตว์จะต้องท่องเที่ยว
อยู่โปรดสัตว์ในสังสารวัฏต่อไป
โดยถือเอามหาปัญญาและมหากรุณาเป็นเบื้องหน้า
อาม่ามิได้เสาะแสวงหา
แต่ถูกพลิกชีวิตด้วยมือที่มองไม่เห็น
สิ่งนี้เรียกว่า การทวงสัจจะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น