วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2560

จิตตสังขาร



ลูกรัก 
ผู้ซึ่งเป็นหน่อเนื้อพุทธางกูร
และมีมหาปัญญาเป็นแสงสว่างแห่งดวงจิตทุกท่าน
ก่อนที่อาม่าจะอธิบาย ว่าจิตตสังขาร
มันสร้างรูปและนามอย่างไร 
เรามาชิม "แกงจืดถ้วยนี่"กันก่อน
นิพพานนั้นรองรับสังสารวัฎอยู่แล้ว

เหมือนแกงจืดถ้วยนี้
นิพพาน คือ ความว่าง 
เปรียบเหมือนถ้วย(อสังขตธรรม)

สังสารวัฎ 
คือทั้งหมดที่เราปรุงแต่งกันจากจิตตสังขาร 
เปรียบเหมือน หมูสับ เต้าหู้ สาหร่าย 
มันอยูในถ้วยทั้งหมด

บุญ บาป ดีชั่ว หญิง ชาย คนสัตว์ 
สูง ต่ำ เทพมาร เป็นเพียงนามเรียกขานสมมุติ
(ก็เหมือนที่เราไปตั้งชื่อ หมูสับ สาหร่าย วุ้นเส้น อะไรเหล่านี้แหละ)
แต่ทั้งสิ้นทั้งปวง ปนเปอยู่ในถ้วยทั้งหมด

พระพุทธองค์ตรัสว่า 
ทั้งหมด ในถ้วยนั้น เกิดจากมายาของจิต
(สังขตธรรม)
มันใช้ประตูทั้ง 6 สร้างโลก คือ ตา หู จมูก กาย ใจ
กระทบที ก็ปรุงตัวกูมาก่อน 
กูเห็น กูได้ยิน กูรัก กูชัง 
แล้วเกิดการแบ่งแยก

เมื่อแบ่งแยก ก็ให้ค่าจนตัณหาต้องทำงาน
คือ ดึงเข้า หรือผลักไส 
กลายเป็นกรรมหรือการกระทำในที่สุด 
แล้วรับวิบากจากการกระทำนั้น

หากไม่มีการปรุง ถ้วยก็ว่างเปล่า นั่นคือจิตเดิมแท้
พระพุทธองค์ทรงสอนว่า 
จิตเดิมแท้ ประภัสสร แต่เศร้าหมอง 
เพราะกิเลสที่จรมา
ดังนั้น 
ในแต่ละคืนละวัน มีบ่อยๆที่มนุษย์
หยุดการปรุงแต่ง ให้ค่า 
และนั่งเล่น นอนเล่นในพระนิพพาน แต่ไม่รู้ตัว
แล้วการที่ลูกๆ ไขว่คว้า แสวงหา เดินทาง 
เพื่อไปพระนิพพานนั้น 
ยิ่งไม่ปรุงแต่งหมุนวน เละเทะ 
วนเวียนอยู่ในถ้วยหรอกหรือ
นิพพาน แปลว่าดับ แปลว่าหยุด
มหาปัญญาของพระโพธิสัตว์ทุกพระองค์
ที่เป็นลูกแห่งพุทธะ ต้องแจ่มจ้าจนรู้ว่า
จะกินแกงจืดถ้วยนี้ อย่างไร ไม่ให้ทุกข์
ใช้สมมุติ เล่นสมมุติ แต่ไม่ติดสมมุติ
แม้สิ่งนั้น จะตื่นเต้น อลังการ ขนาดไหน

สำหรับพระโพธิสัตว์ ให้ค่าได้"แค่อุปายะ"ในทุกธรรม


วันนี้ อาม่าจะมาบอกต่อว่า

"จิตตสังขาร" 
มันสร้างสสารและพลังงานขึ้นมาอย่างไร?

ลูกรัก .....
ก็ถ้า พระพุทธองค์สอนว่า

"สสารและพลังงาน" 
เกิดจาก จิตสังขาร


สสารและพลังงานในทางพุทธศาสนา คือ
"รูปและนาม"
จิตตสังขาร คือการปรุงแต่งของจิต
สรุปคือ 
"รูปและนาม" 
เกิดจากการปรุงแต่งของจิต
ทั้งโลกนี้ "จบ" หมดเลย 
รู้เท่าทันก็ไม่ต้องไปให้ค่า

หากใครสักคน 
มองเห็นเหมือนอย่างที่พระพุทธองค์เห็น
ที่กล่าวว่าเราเจอเจ้าแล้ว นายช่างผู้ปลูกเรือน
มันก็จบจริง
อาม่า 
ไม่ได้มาเพื่อสอนให้ลูกๆต่อเติม เรือน ให้มากขึ้น
แต่มา เพื่อ หักล้าง "เรือน ภพ ชาติ ชรา มรณะ"
ที่พระพุทธองค์ ทรงค้นพบ และสอนเวไนย
#โพสต์ต่อไป อาม่าจะ อธิบายการทำงานของจิตตสังขาร#
พระเชนเรซิก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เปิดพลังแห่ง ความสุข.............

การให้เกียรติสิ่งรอบตัวถือเป็นการเปิดพลังแห่งทัศนคติใหม่ และยังเสริมการมองเห็นทัศนวิสัย ให้ก้าวสู่โลกที่มีคุณค่า และนอกจากนี้ยังทำให้คุณตื่นขึ้นมาเห็นความจริงรอบตัว ที่คุณอาจจะไม่เคยเห็น และรับรู้คุณค่าของสิ่งรอบตัวเรา หรือสังคมของเรา แล้วเรียนรู้ที่จะรักในสิ่งที่ควรรัก รักในสิ่งที่ให้ความรู้สึกดีๆที่ตอบแทนมาอย่างมีคุณค่าจริงๆ มันจะช่วยฉุดดึงให้คุณหลุดออกจาก อดีตที่เจ็บช้ำหรือแม้แต่ความยึดติดใดๆก็ตาม เชื่อหรือไม่ว่าสิ่งรอบตัวบางอย่างหรือหลายๆอย่างนั้น คุณอาจไม่เคยแยแส แม้แต่ก่อนที่จะพบเรื่องเศร้าด้วยซ้ำ
คำว่า “การให้เกียรติ” คำๆนี้คือวิถีคือครรลองที่สังคมของมนุษย์ที่มีจิตใจสูงในทางโลก ย่อมที่จะพัวพันกับภาวะของการให้เกียรติอยู่กันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการให้เกียรติต่อ บุคคล ให้เกียรติต่อสัญลักษณ์ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีค่าทางจิตใจ ให้เกียรติต่อสิ่งที่ยึดถือ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีบุญคุณ ในชีวิตเราและชีวิตท่านวันนี้คุณให้เกียรติคนที่คุณ "เกลียดชัง" พวกเขาแล้วหรือยัง.......

" โลกนี้จะร่มเป็นสุข อยากให้โลกนี้ดีงาม ให้เริ่มต้นที่ ใจ ตนเองเป็นอันดับแรก "

Glitter Photos

พระเชนเรซิก อวโลกิเตศวร มหาโพธิสัตว์

พระเชนเรซิก อวโลกิเตศวร มหาโพธิสัตว์