วันอังคารที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2560

ที่สุดของพระพุทธศาสนาก็คือ "จิตหลุดพ้นจากอุปาทาน"

ในภาพอาจจะมี 1 คน, สถานที่กลางแจ้ง

ที่สุดของพระพุทธศาสนาก็คือ 
"จิตหลุดพ้นจากอุปาทาน"
แต่ผู้ปฎิบัติทุกวันนี้ ยิ่งปฎิบัติ ยิ่งอุปาทานเยอะ 
สร้างข้อแม้เงื่อนไข ให้วิถีธรรมมากมาย
แสวงหาจุดจบ 
แต่กลับตก 
"กับดัก" 
ของธรรมเหล่านั้นเสียเอง
"จบ"
คืออิสระทางใจ อันไม่มีอะไรผูกพัน
ให้ตกเป็นทาสของโลก 
(เข้าสู่โลกุตตระธรรม)
หรือเรียกให้ขลังหน่อยก็ 
"บรรลุมรรคผลนิพพาน"
นั่นแหละ
มันสรุปที่ตรงนี้ที่ละจาก
ความยึดมั่นถือมั่นในธรรมทั้งปวงเท่านั้น.....
จะแสวงหาอะไรมากกว่านี้หรือ
ถ้าบ้าตำรา..
ก็จะบอกว่า 
ที่สุดของการเดินทางคือหลุดพ้นจาก 
อุปาทานทั้ง 4 คือ
1.กามุปาทาน คือยึดมั่นในของรักใคร่
2.ทิฎฐุปาทาน คือยึดถือทิฐิความเห็นตน
3.สีลัพพตุปาทาน คือยึดในศีล วัตร ข้อปฎิบัติ
4.อัตตวาทุปาทาน คือยึดว่า"ตน"เป็นตัวตน
....จบแค่นี้จริงๆ....
ไม่ต้องไปเรียนรู้อะไรมากหรอก
แต่...
บทสรุปแค่นี้ 
นักปฏิบัติทั้งหลายต่างร่วงลงกับดัก
แห่งหลุมทิฐิแห่งธรรมมากที่สุด
อาม่าไม่มีทิฐิใดๆในธรรม 
จึงให้อิสระลูกๆทุกคน 
ที่จะศึกษาเรียนรู้แนวทางไหนก็ได้ 
ครูบาอาจารย์คนใดก็ได้
แต่ขอให้ใช้ปัญญามาสรุปที่ 
"สัพเพ ธัมม นาลัง ธัมมา อภินิเวสายะ" 
คือธรรมทั้งหลายทั้งปวง 
อันใครๆไม่ควรยึดมั่นถือมั่น
หากลูกๆ มีปัญญา ที่จะเห็นความจริงตรงนี้
ว่าทุกสรรรพสิ่ง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป 
ตามกระแสปรุงแต่งแห่งธรรมชาติ 
ตามเหตุปัจจัย

ลูกจะแข็งแกร่งจนโลกธรรม 8 
ไม่มีอิทธิพลบีบคั้นสภาวจิตลูกได้ 
เพราะเห็นเป็นธรรมดา ธรรมชาติ
อาม่าเป็นอิสระ แม้จากธรรมทั้งปวง
แต่อาม่าไม่เคยเป็นอิสระ 
จากมหาปนิธาน 
อันเกิดจากความรักที่มีต่อเวไนย

ลูกจะเป็น "ลูกๆ" ของอาม่าเสมอ
ไม่ว่าเส้นทางที่ลูกจะเลือก 
จะเป็นเส้นทางไหน
จะอยู่หรือ...จะจาก
ภพนี้ หรือ ภพหน้า

อ้อมกอดของอาม่า 
ก็จะเป็นอ้อมกอดที่มีเพื่อลูกๆของอาม่าเสมอ
และเสบียงอริยะทรัพย์
ที่อาม่าเป็นผู้นำสร้างเป็นฐานบารมีใหญ่ๆ
ให้ลูกๆนั้น
ไม่ว่ามหาทานบารมี จะสถานสงเคราะห์ต่างๆ 
ไถ่ชีวิตสัตว์ 
หรือ
ถวายมหาสังฆทานเครื่อง 9 
การสละหรือฉุดช่วยภพภูมิ
จะติดตามเป็นบุญกุศล 
ให้ลูกตราบจนข้ามฝั่งนทีศรีทันดร
จงรู้ไว้เถิดลูก 
แม้ลูกอยู่หรือจาก 
รักของแม่ต้องมีเสบียงให้ลูกได้ติดตัวไป 
ไม่ให้ลูกเดินทางอย่างลำบากแน่นอน!!!!

#อาม่า...พระเชนเรซิก#

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เปิดพลังแห่ง ความสุข.............

การให้เกียรติสิ่งรอบตัวถือเป็นการเปิดพลังแห่งทัศนคติใหม่ และยังเสริมการมองเห็นทัศนวิสัย ให้ก้าวสู่โลกที่มีคุณค่า และนอกจากนี้ยังทำให้คุณตื่นขึ้นมาเห็นความจริงรอบตัว ที่คุณอาจจะไม่เคยเห็น และรับรู้คุณค่าของสิ่งรอบตัวเรา หรือสังคมของเรา แล้วเรียนรู้ที่จะรักในสิ่งที่ควรรัก รักในสิ่งที่ให้ความรู้สึกดีๆที่ตอบแทนมาอย่างมีคุณค่าจริงๆ มันจะช่วยฉุดดึงให้คุณหลุดออกจาก อดีตที่เจ็บช้ำหรือแม้แต่ความยึดติดใดๆก็ตาม เชื่อหรือไม่ว่าสิ่งรอบตัวบางอย่างหรือหลายๆอย่างนั้น คุณอาจไม่เคยแยแส แม้แต่ก่อนที่จะพบเรื่องเศร้าด้วยซ้ำ
คำว่า “การให้เกียรติ” คำๆนี้คือวิถีคือครรลองที่สังคมของมนุษย์ที่มีจิตใจสูงในทางโลก ย่อมที่จะพัวพันกับภาวะของการให้เกียรติอยู่กันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการให้เกียรติต่อ บุคคล ให้เกียรติต่อสัญลักษณ์ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีค่าทางจิตใจ ให้เกียรติต่อสิ่งที่ยึดถือ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีบุญคุณ ในชีวิตเราและชีวิตท่านวันนี้คุณให้เกียรติคนที่คุณ "เกลียดชัง" พวกเขาแล้วหรือยัง.......

" โลกนี้จะร่มเป็นสุข อยากให้โลกนี้ดีงาม ให้เริ่มต้นที่ ใจ ตนเองเป็นอันดับแรก "

Glitter Photos

พระเชนเรซิก อวโลกิเตศวร มหาโพธิสัตว์

พระเชนเรซิก อวโลกิเตศวร มหาโพธิสัตว์