วันจันทร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2560

วิถีแห่งความพ้นทุกข์เรียกว่า สัมมาทิฐิ

ในภาพอาจจะมี 2 คน, ผู้คนกำลังยืน, ต้นไม้, ต้นพืช, ท้องฟ้า และ สถานที่กลางแจ้ง

วิถีแห่งความพ้นทุกข์เรียกว่า สัมมาทิฐิ
และสัมมาทิฐิก็ไม่ใช่มาจากตำรา
ทฤษฎีหรือความเชื่อ
ทว่า เป็นการตระหนักรู้ธรรมชาติ
อย่างตรงไปตรงมาทุกขณะ

ไม่ใช่แนวคิดตายตัว 

เพราะแต่ละคนมีทุกข์หลากหลายไม่เหมือนกัน
เห็นเอง...รู้เอง..ปล่อยเอง ในที่สุด
สัมมาทิฐิแปลว่าความเห็นชอบ
ไม่ตายตัวว่าเป็นผลลัพท์ทางความคิด
เป็นเอกสิทธิ์ของพระพุทธเจ้าเท่านั้น
แต่เป็นการหยั่งรู้ความจริงอันเรียบง่าย 
ที่ปฏิเสธไม่ได้
ความจริงไม่ใช่สิ่งเฉื่อยชา แน่นิ่ง
แต่การหยั่งรู้ความจริง คือการเปิดจิตสู่โลกทัศน์ 
อย่างไม่หยุดนิ่ง

คำสอนพระพุทธเจ้าไม่มีแก่นสารตายตัว 
เพราะความจริงไม่ใช่
"ความคิด"
แต่มนุษย์ชอบยกความคิด
(ทฤษฎี ตำรา) 
ให้เป็นความจริง
ความจริงสำหรับพุทธศาสนาอยู่ที่
"ประโยชน์"
ที่จะปลดปล่อยผู้คนออกจากทุกข์
แต่เกณฑ์ตัดสินความจริงของชาวโลก 
อยู่ที่ความเชื่อถือทางตรรกะ น่าเชื่อถือ....
แต่ปลดปล่อยตัวเองไม่ได้ 
ซ้ำยังสร้างจุดอ่อนมากกว่าจุดแข็ง
เพราะยึดติดในทรรศนะอย่างเหนียวแน่น 
จนกลายเป็นทิฐิ
เมื่อยกทิฐิให้เป็นความจริงเสียแล้ว 
ก็สร้างตัวตนปกป้องทิฐิของตนอย่างเข้มแข็ง
แล้วพยายามยัดเยียดทิฐิและความเชื่อให้ผู้อื่น 
โดยบอกว่านี่คือ
"สัมมาทิฐิ"
จากนั้น...
ก็ทะเลาะกัน ขัดแย้งกัน โต้เถียงกัน
กอดคอกันจมทะเลแห่งทิฐิ 
ที่ปักใจว่าตายตัวเป็นหลักการหนึ่งเดียวนั้น
อย่างน่าสงสาร.....เป็นที่สุด!!!
แต่...
พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า
บางคนมีทิฐิเห็นว่า สิ่งทั้งปวงไม่สมควรแก่ตน
บางคนเห็นว่า สิ่งทั้งปวงสมควรแก่ตน
บางคนเห็นว่า บางสิ่งสมควรแก่ตน บางสิ่งไม่สมควรแก่ตน
ด้วยยังมีความยึดมั่นในตัวตน 
บุคคลเหล่านั้นจึงยังเสวยเวทนาอยู่เป็นนิจ

ต่อเมื่อพิจารณาเห็นความไม่เที่ยง
เห็นปัจจัยปรุงแต่งเป็นไปตามธรรมดาอยู่อย่างนั้น 
จึงบังเกิดเบื่อหน่าย
เมื่อเบื่อหน่ายย่อมคลายกำหนัด
เมื่อคลายกำหนัด จิตย่อมหลุดพ้น จากความยึดมั่น ถือมั่น

เมื่อพ้นแล้วก็รู้ว่าพ้นแล้ว.......
จำไว้นะ ลูก สัมมาทิฐิ คือ
การตระหนักรู้ ธรรมชาติตรงหน้า 
อย่างตรงไปตรงมาที่สุด 
ปราศจากการตัดสินให้ค่าใดๆ

เพราะแท้จริงแล้ว มีอะไร สมควร ไม่สมควร 
ต่อตัวตนที่ไม่เคยมีจริงของเราหรือ 
อาม่า...พระเชนเรซิก

สัมมาทิฐิ
ปัญญาอันเห็นชอบนั้น ต้องเห็นว่า


อะไรเป็นการผูกมัด
อะไรเป็นการปล่อยวาง

อะไรเป็นความบริสุทธิ์
อะไรเป็นความเศร้าหมอง

อะไรเป็นการจมอยู่ในกองทุกข์
อะไรเป็นการปล่อยให้หลุดพ้น

อะไรเป็นทางให้จมอยู่ในวัฎสงสาร
อะไรเป็นทางหักวงล้อวัฎสงสารนั้น

ทีสุดแห่งทุกข 

คือจิตเป็นอิสระ จากเครื่องร้อยรัดผูกพัน
ในภาพอาจจะมี 4 คน, คนที่ยิ้ม, ผู้คนกำลังยืน และ สถานที่กลางแจ้ง

ในภาพอาจจะมี 6 คน, คนที่ยิ้ม, ผู้คนกำลังยืน และ สถานที่กลางแจ้ง

ในภาพอาจจะมี 1 คน, ภูเขา, ท้องฟ้า, เมฆ, สถานที่กลางแจ้ง และ ธรรมชาติ

ในภาพอาจจะมี ท้องฟ้า และ สถานที่กลางแจ้ง

ในภาพอาจจะมี สถานที่ในร่ม

ในภาพอาจจะมี 4 คน, ผู้คนกำลังยืน, สถานที่กลางแจ้ง และ ธรรมชาติ.

ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังยิ้ม, กำลังยืน และ สถานที่กลางแจ้ง

ในภาพอาจจะมี 3 คน, คนที่ยิ้ม, ผู้คนกำลังยืน และ สถานที่กลางแจ้ง

ในภาพอาจจะมี 3 คน, คนที่ยิ้ม

ในภาพอาจจะมี เมฆ, ท้องฟ้า, รองเท้า และ สถานที่กลางแจ้ง

ในภาพอาจจะมี 1 คน, ท้องฟ้า และ สถานที่กลางแจ้ง

ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังยิ้ม, กำลังยืน, ภูเขา, รองเท้า, ท้องฟ้า, สถานที่กลางแจ้ง และ ธรรมชาติ

ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป และ ภาพระยะใกล้

ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังยืน, ภูเขา, สถานที่กลางแจ้ง และ ธรรมชาติ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เปิดพลังแห่ง ความสุข.............

การให้เกียรติสิ่งรอบตัวถือเป็นการเปิดพลังแห่งทัศนคติใหม่ และยังเสริมการมองเห็นทัศนวิสัย ให้ก้าวสู่โลกที่มีคุณค่า และนอกจากนี้ยังทำให้คุณตื่นขึ้นมาเห็นความจริงรอบตัว ที่คุณอาจจะไม่เคยเห็น และรับรู้คุณค่าของสิ่งรอบตัวเรา หรือสังคมของเรา แล้วเรียนรู้ที่จะรักในสิ่งที่ควรรัก รักในสิ่งที่ให้ความรู้สึกดีๆที่ตอบแทนมาอย่างมีคุณค่าจริงๆ มันจะช่วยฉุดดึงให้คุณหลุดออกจาก อดีตที่เจ็บช้ำหรือแม้แต่ความยึดติดใดๆก็ตาม เชื่อหรือไม่ว่าสิ่งรอบตัวบางอย่างหรือหลายๆอย่างนั้น คุณอาจไม่เคยแยแส แม้แต่ก่อนที่จะพบเรื่องเศร้าด้วยซ้ำ
คำว่า “การให้เกียรติ” คำๆนี้คือวิถีคือครรลองที่สังคมของมนุษย์ที่มีจิตใจสูงในทางโลก ย่อมที่จะพัวพันกับภาวะของการให้เกียรติอยู่กันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการให้เกียรติต่อ บุคคล ให้เกียรติต่อสัญลักษณ์ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีค่าทางจิตใจ ให้เกียรติต่อสิ่งที่ยึดถือ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีบุญคุณ ในชีวิตเราและชีวิตท่านวันนี้คุณให้เกียรติคนที่คุณ "เกลียดชัง" พวกเขาแล้วหรือยัง.......

" โลกนี้จะร่มเป็นสุข อยากให้โลกนี้ดีงาม ให้เริ่มต้นที่ ใจ ตนเองเป็นอันดับแรก "

Glitter Photos

พระเชนเรซิก อวโลกิเตศวร มหาโพธิสัตว์

พระเชนเรซิก อวโลกิเตศวร มหาโพธิสัตว์