วันอังคารที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2560

เมื่อ พระพุทธองค์ตรัสว่าจิตเป็นอนัตตา ไม่มีตัวตน เป็นมายาไร้แก่นสาร

ในภาพอาจจะมี 1 คน, ข้อความ

  • เมื่อ พระพุทธองค์ตรัสว่าจิตเป็นอนัตตา ไม่มีตัวตน เป็นมายาไร้แก่นสาร แล้วเหตุใดพวกเธอจึงฝึกจิต ดูจิต
  • แทนที่เธอจะ....วางจิต????
  • และ พระพุทธองค์ยังตรัสต่ออีกว่า พวกหลงจิตนั้น หลุดพ้นยาก กว่าพวกหลงกาย หลายเท่านัก
  • แต่ส่วนใหญ่ ก็เป็นกรรมของสัตว์ ที่เคยปฎิฆะปรามาสพระธรรม ในภพเก่ากาลก่อน 
  • พวกนี้ จึงต้องวนเวียนใช้กรรมกับการฝึกจิตอีกแสนกัปป์
ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังยิ้ม, มหาสมุทร, ท้องฟ้า, เมฆ, ธรรมชาติ และ สถานที่กลางแจ้ง

พระพุทธเจ้า จึงทรงแบ่ง เวไนยเป็นสองแบบ

พวกที่มีปัญญา ตื่นรู้ฉับพลัน(เว่ยหลาง)

พวกที่ปัญญาน้อย ต้องปฎิบัติ(ชินเชา)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เปิดพลังแห่ง ความสุข.............

การให้เกียรติสิ่งรอบตัวถือเป็นการเปิดพลังแห่งทัศนคติใหม่ และยังเสริมการมองเห็นทัศนวิสัย ให้ก้าวสู่โลกที่มีคุณค่า และนอกจากนี้ยังทำให้คุณตื่นขึ้นมาเห็นความจริงรอบตัว ที่คุณอาจจะไม่เคยเห็น และรับรู้คุณค่าของสิ่งรอบตัวเรา หรือสังคมของเรา แล้วเรียนรู้ที่จะรักในสิ่งที่ควรรัก รักในสิ่งที่ให้ความรู้สึกดีๆที่ตอบแทนมาอย่างมีคุณค่าจริงๆ มันจะช่วยฉุดดึงให้คุณหลุดออกจาก อดีตที่เจ็บช้ำหรือแม้แต่ความยึดติดใดๆก็ตาม เชื่อหรือไม่ว่าสิ่งรอบตัวบางอย่างหรือหลายๆอย่างนั้น คุณอาจไม่เคยแยแส แม้แต่ก่อนที่จะพบเรื่องเศร้าด้วยซ้ำ
คำว่า “การให้เกียรติ” คำๆนี้คือวิถีคือครรลองที่สังคมของมนุษย์ที่มีจิตใจสูงในทางโลก ย่อมที่จะพัวพันกับภาวะของการให้เกียรติอยู่กันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการให้เกียรติต่อ บุคคล ให้เกียรติต่อสัญลักษณ์ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีค่าทางจิตใจ ให้เกียรติต่อสิ่งที่ยึดถือ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีบุญคุณ ในชีวิตเราและชีวิตท่านวันนี้คุณให้เกียรติคนที่คุณ "เกลียดชัง" พวกเขาแล้วหรือยัง.......

" โลกนี้จะร่มเป็นสุข อยากให้โลกนี้ดีงาม ให้เริ่มต้นที่ ใจ ตนเองเป็นอันดับแรก "

Glitter Photos

พระเชนเรซิก อวโลกิเตศวร มหาโพธิสัตว์

พระเชนเรซิก อวโลกิเตศวร มหาโพธิสัตว์