วันพุธที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2560

มหัศจรรย์แบบมโน มันลวงโลก

ในภาพอาจจะมี ข้อความ

มหัศจรรย์แบบมโน มันลวงโลก!!!!!
เพราะธรรมะคือ
ความเป็นธรรมดาธรรมชาติที่สุด 
ไร้การปรุงแต่ง

ชีวิต ของผู้รู้แจ้งนั้น 
ขอใช้คำว่า "สนุกมาก"
เพราะรู้หมดว่ากิเลสในใจมนุษย์ 
ทั้งเราทั้งเขามันทำงานอย่างไร
แต่...
จะไม่ตัดสิน ไม่จับผิด ว่าใครดีเลว ถูกผิด 
เพราะมองทุกอย่าง
เป็นแค่เหตุปัจจัยการปรุงแต่งของธรรมชาติหมด
รู้แจ้งแทงตลอด เข้าใจชีวิตอย่างถึงแก่น 
จึงไม่มีสัตว์ บุคคล เรา เขา
เห็นทุกอย่างเป็นสิ่งเดียวกัน
จึงหล่อหลอมเป็นหนึ่งกับจักรวาล
คนใกล้ชิด มักไม่รู้ คู่ครอง พ่อแม่ เพื่อนฝูง
แม้นั่งด้วยกันบนรถเมล์ รถไฟ เครื่องบิน 
ความเป็นธรรมดาอย่างถึงที่สุดนี้ 
จะไม่มีใครมองเห็นได้เลย
บางครั้ง 
ท่านอาจทำอะไรแผลงผิดจากมนุษย์ธรรมดา 
ด้วยอิสระจากการให้ค่าทั้งปวง ....
และความหลุดพ้นของผู้ที่จบกิจจริงๆ 
เหมือนมะม่วงสุกหล่นจากขั้ว 
หลุดแล้วหลุดเลย กลับไม่ได้อีกแล้ว
ด้วยสภาวะที่มันธรรมดาอย่างที่สุดนั้น

เป็นธรรมชาติล้วนๆ กริยาล้วนๆ 
ไม่เจือด้วยตัณหา ความทะยานอยาก 
และเป็นอิสระเต็มที่
คำกล่าวที่ว่า 
"หิวก็กิน ง่วงก็นอน" 
ใช้ได้สำหรับผู้ที่ไม่มีกิจต้องทำแล้ว

แต่บุคคลที่ยังปรุงแต่งอยู่
ย่อมเกิดความละอาย 
ตะขิดตะขวงใจ 
ที่จะกินๆนอนๆ ฟุ้งซ่าน ไปต่างๆนาๆ
.
ฉะนั้น 
ความฝันอันวิจิตรที่ว่า เป็นพระอรหันต์แล้ว 
ต้องวางท่าสวยหรู ให้ผู้คนกราบไหว้ 
สมกับเป็นยอดมนุษย์ นั้น 
มันเป็นการลวงโลกที่สุด
เพราะเอาสภาวะธรรมชาติที่ธรรมดาจืดสนิท
มาทำให้ตื่นเต้นหวือหวา มหัศจรรย์!!!
พระพุทธองค์
จึงทรงวางอุดมคติให้พระอรหันต์ทั้งหลาย 
อนุเคราะห์ผู้อื่น เมื่อกิจของตนจบแล้ว
เป็นการหา"งาน"ให้พระอรหันต์ทำอย่างหนึ่ง

มิฉะนั้น ท่านก็จะว่างเกินไป
แต่ปัญหาคือ "ไม่มีธรรม นั่นคือธรรม"
ผู้ที่จะสามารถ นำ"สิ่งที่ไม่มี" 
มาแปรค่าให้"มี" 
เป็นสมมุติบัญญัติ เพื่อการถ่ายทอด 
จะมีสักกี่ท่าน
นี่แหละ...
จึงจะมหัศจรรย์จริงเรียกว่า
"อนุสาสนีปาฎิหารย์"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เปิดพลังแห่ง ความสุข.............

การให้เกียรติสิ่งรอบตัวถือเป็นการเปิดพลังแห่งทัศนคติใหม่ และยังเสริมการมองเห็นทัศนวิสัย ให้ก้าวสู่โลกที่มีคุณค่า และนอกจากนี้ยังทำให้คุณตื่นขึ้นมาเห็นความจริงรอบตัว ที่คุณอาจจะไม่เคยเห็น และรับรู้คุณค่าของสิ่งรอบตัวเรา หรือสังคมของเรา แล้วเรียนรู้ที่จะรักในสิ่งที่ควรรัก รักในสิ่งที่ให้ความรู้สึกดีๆที่ตอบแทนมาอย่างมีคุณค่าจริงๆ มันจะช่วยฉุดดึงให้คุณหลุดออกจาก อดีตที่เจ็บช้ำหรือแม้แต่ความยึดติดใดๆก็ตาม เชื่อหรือไม่ว่าสิ่งรอบตัวบางอย่างหรือหลายๆอย่างนั้น คุณอาจไม่เคยแยแส แม้แต่ก่อนที่จะพบเรื่องเศร้าด้วยซ้ำ
คำว่า “การให้เกียรติ” คำๆนี้คือวิถีคือครรลองที่สังคมของมนุษย์ที่มีจิตใจสูงในทางโลก ย่อมที่จะพัวพันกับภาวะของการให้เกียรติอยู่กันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการให้เกียรติต่อ บุคคล ให้เกียรติต่อสัญลักษณ์ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีค่าทางจิตใจ ให้เกียรติต่อสิ่งที่ยึดถือ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีบุญคุณ ในชีวิตเราและชีวิตท่านวันนี้คุณให้เกียรติคนที่คุณ "เกลียดชัง" พวกเขาแล้วหรือยัง.......

" โลกนี้จะร่มเป็นสุข อยากให้โลกนี้ดีงาม ให้เริ่มต้นที่ ใจ ตนเองเป็นอันดับแรก "

Glitter Photos

พระเชนเรซิก อวโลกิเตศวร มหาโพธิสัตว์

พระเชนเรซิก อวโลกิเตศวร มหาโพธิสัตว์