วิชาเคลื่อนย้ายจักรวาล
ของพระอมิตภะตถาคตเจ้า
จริงๆแล้ว ก็คือ
"วิชาเปิดโลก"
นั่นเอง
เพราะสามารถเปิดภพภูมิได้
เป็นแนวทางสั้นลัด
ที่นอกจากน้อมนำพลังลงล้างธาตุขันธ์แล้ว
ยังเปิดมิตินำเจ้ากรรมนายเวรมาพบกับคู่กรณีโดยตรง
เพื่ออโหสิกรรมและยุติ
กรรมต่อกันในที่สุด
แต่ทั้งนี้
อาม่าต้องนำบารมีและอานุภาพตน
ในฐานะผู้เชื่อมต่อมาคุ้มครองผู้ที่เข้ารับกรรมฐานด้วย
(จึงไม่สามารถกระทำได้บ่อยๆ)
เพราะเมื่อเจอกระแสมิติที่มีพลังลบ
และผู้ที่ตนติดค้างกันมา
ผู้รับกรรมฐานจะรู้สึกอึดอัด กดทับ .
เหมือนถูกฉุดดึง และการทวงถาม
เหมือนถูกฉุดดึง และการทวงถาม
อาจมาในรูปแบบสัมผัส
ภาพ แสงสีเสียงและกลิ่น แตกต่างกัน
การกรี้ดร้อง การหน้าแดง การคร่ำครวญ
หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก
ล้วนเป็นผลออกมาจากภวังคจิต
ในการล้างยุติกรรม
ในการล้างยุติกรรม
เมื่อออกจากกรรมฐาน จึงโล่งโปร่งเบา
และสว่างไสวในองค์ธรรม
(อาม่าจึงจะแสดงธรรมหลังออกจากกรรมฐาน)
การเรียนรู้ธรรมไม่ว่าแนวทางไหน
ก็จะก้าวหน้ายิ่งขึ้น
ก็จะก้าวหน้ายิ่งขึ้น
คนเรานั้น
หากวิบากเบาบาง ทำอะไรก็ลื่นไหลคล่องตัว
ทั้งทางโลกและทางธรรม
**เท่าที่ผ่านมาก็จะยุติกรรมกันได้**
เพราะที่สุดของที่สุด
มีพุทธานุภาพพระอมิตภะตถาคตเจ้าปกปักอยู่
กระแสของการสำนึก
ขออโหสิกรรมจึงค่อนข้างนุ่มนวล
และ ส่งบุญบารมีต่อกันได้ ด้วยแรงเหวี่ยงแห่งพุทธคุณ
ผู้ที่จะน้อมพลังตรงนี้มาฉุดช่วยเวไนยได้
จึงต้องมีอาญาสิทธ์จริงๆ และจุดหลักๆ 3 ข้อ คือ
1.
มีอธิษฐานบารมีมา
คือ อธิษฐานที่จะมาปรกโปรดภพภูมิโดยตรง
บำเพ็ญผ่านอสงไขย ข้ามพุทธันดรมานาน
2.
ผู้เชื่อมต่อต้องน้อมขอบารมี
พระพุทธเจ้าทุกพระองค์
และมหาโพธิสัตว์เป็นประธานทุกครั้ง
3.
ดวงจิตของผู้เชื่อมต่อ 3 โลก
ต้องปราศจากการเสวยอิฎฐารมณ์ และอนิฏฐารมณ์
คือไม่โสมนัส โทมนัส ไม่ทุกข์ไม่สุขใดๆ
(สุญญตาวิหาร)
วิธีนี้
ปลดปล่อยได้ทั้งมนุษย์และจิตวิญญาน
สำเร็จวิชานี้ได้
ด้วยกำลังใจอันเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวจริงๆ
คือข้ามผ่านแบบทดสอบ
อันโหดแสนโหดของเบื้องบน
อันโหดแสนโหดของเบื้องบน
ชนิดเจ็บเป็นเจ็บ ตายเป็นตาย
และไร้ร่องรอยในอายตนะ 6 ได้
อาม่า(พระเชนเรซิก)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น