วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2560

อายตนะ6



สิ่งที่ผู้คนตระหนก กลัว มากที่สุด คือ"วันสิ้นโลก"

แต่ในทางพุทธนั้้น.....โลกาวินาศ หรือ โลกแตก เกิดขึ้นทุกวัน
............................................
เพราะโลก สำหรับพระพุทธองค์ คือ อายตนะ6
(ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ)


ถ้าสิ่งเหล่านี้ทำงาน โลกของคนๆนั้นก็มี
ถ้าสิ่งเหล่านี้ดับ โลกสำหรับบุคคลนั้นก็ดับ
คนตายกันทุกวัน โลกก็แตกกันทุกวัน
นี่คือความลึกซึ้งของพระพุทธองค์
.............................................
ทั้งหมดในโลก เกิดจากจิตตสังขาร..การปรุงแต่งของจิต
โทสะ โมหะ โลภะ และทั้งปวงในโลกมาจากอายตนะ
กระทบที ปรุงแต่งที ให้ค่าที ก็เกิดโลกที เป็นครั้งเป็นคราว
ยก ตัวอย่างเช่น สมมุติว่าอาม่าเหาะอยู่ตรงหน้าลูกๆ
ลูกๆ ก็ก้มลงกราบและต่างอุทาน 
เลื่องลือกัน ว่าอาม่าศักดิ์สิทธิ์
แต่พออาม่า เหาะไปอีกแห่ง
ในหมู่บ้านที่คนตาบอดทั้งหมู่บ้าน
ถามว่า เหาะ 100 ปี จะมีคนกราบไหว้ไหม
ถามว่า เหาะ 100 ปี จะมีคนเลื่องลือว่าอาม่าศักดิ์สิทธิไหม
ดังนั้น แท้ที่จริงแล้ว ความศักดิ์สิทธนั่น 
อยู่ที่อาม่า หรืออยู่ที่ใจลูก
ใดๆในโลกนี้ จะ "ไม่มีความหมาย" เลย
หากลูกไม่ให้ "ค่า" มันผ่านอายตนะ6
คือโลกที่ปรุงแต่งสร้างมันขึ้นมา
.............................................
"โลก ความดับสนิทของโลก และหนทางแห่งการดับสนิท ตถาคตกล่าวว่า อยู่ในกายยาววา หนาคืบนี้"
เมื่อเห็นสักว่าเห็น 
ได้ยินสักว่าได้ยิน ไปเรื่อยๆ
จนกระทั่ง รู้แจ้งสักว่ารู้แจ้ง
เมื่อนั้น เธอ "จักไม่มี "
เมื่อเธอไม่มี โลกนี้ โลกหน้า ไม่มี
..................................................................
สักแต่ว่า ทุกการกระทบ 
"โลก" ก็ไม่มี
ไร้การปรุงให้เกิดขึ้น ภพ ชาติก็ไม่มี
วัฎสงสารก็ขาด
สรุป*** 
อายตนะ6 คือโลกในทางพุทธศาสนา
คือผู้อยู่เหนือโลก ไม่ถูกฉุดรั้งทั้งจากรูปและอรูป
ข้ามผ่านธรรมคู่ทวิภาวะทั้งปวง
น่ารัก น่าเกลียด สวยงาม หรืออะไรๆ
ก็เป็นเพียงมายาภาพที่หาค่าไม่ได้
การยกระดับจิตวิญญานสู่มหาสัตว์
คือสมุจเฉทเด็ดขาด มีกำลังจิตอันเข้มแข็ง ยิ่งใหญ่
ท่านสามารถทำและข้ามผ่านในสิ่งที่ปุถุชนทำและข้ามผ่านไม่ได้
"ลื้อจะเป็นแค่สัตว์ หรือมหาสัตว์ ก็เลือกเส้นทางกันเอาเอง"
อาม่า...พระเชนเรซิก!!!

โอวาทสัมพันธ์พญาอสูร
ผู้ทดสอบใหญ่แห่งธรรมกาลยุคขาว

รับบัญชาสู่สถานพบเมธา
เตือนชนกัลยาอย่าอาลัยโลกีย์อยู่
จิตใจเจ้าเมื่อสั่นไหวข้ารับรู้
สอบล้มผู้บำเพ็ญยุคขาวเทพผีคน

เพราะข้าได้รับบัญชาจากเบื้องบน 
ไม่อาจที่จะไม่ทดสอบ
แม้นทดสอบโดยปราศจากความเหี้ยมโหด 
ตัวข้าเองกลับมีความผิดบาป
ภาระหน้าที่นี้เหล่าปวงพุทธะไม่สามารถแบกรับได้ 
เพราะพระพุทธะทรงเปี่ยมไปด้วยจิตเมตตา 
ไม่อาจแบกรับหน้าที่ในการทดสอบธรรมะได้
จึงเป็นเหล่าผองสมุนมารของข้า
ที่สามารถทดสอบแบบเหี้ยมโหดได้ 
หวังทุกคนจะระลึกรู้ไว้อยู่ทุกขณะเวลา
ธรรมะกับมารกำเนิดคู่กัน 
ต้องเสริมสร้างความศรัทธาและทำจิตใจให้แข็งแกร่ง 
จึงจะต้านทานการทดสอบใหญ่จากข้าได้
แม้นสอบผ่าน ก็จะสถิตนามได้รับอริยะฐานะ
แม้นสอบไม่ผ่าน 
ก็จะถูกถอนชื่อจากบัญชีฟ้า นรกานต์ก็มีส่วนที่ไปแล
พุทธะกับมารคือสิ่งเดียวกัน
เมื่อเข้าจิตธรรมญาณคือพุทธะ
เมื่อออกห่างจิตคือมาร 
เพราะฉะนั้นจะต้องดำเนินด้วยจิต
ประคองรักษาความรู้สึกที่จุดญาณทวาร
ให้รู้สึกตลอดเวลาทุกขณะจิต
เมิี่อตั้งมั่นที่จิต
มารก็ไม่สามารถทำอะไรเราได้



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เปิดพลังแห่ง ความสุข.............

การให้เกียรติสิ่งรอบตัวถือเป็นการเปิดพลังแห่งทัศนคติใหม่ และยังเสริมการมองเห็นทัศนวิสัย ให้ก้าวสู่โลกที่มีคุณค่า และนอกจากนี้ยังทำให้คุณตื่นขึ้นมาเห็นความจริงรอบตัว ที่คุณอาจจะไม่เคยเห็น และรับรู้คุณค่าของสิ่งรอบตัวเรา หรือสังคมของเรา แล้วเรียนรู้ที่จะรักในสิ่งที่ควรรัก รักในสิ่งที่ให้ความรู้สึกดีๆที่ตอบแทนมาอย่างมีคุณค่าจริงๆ มันจะช่วยฉุดดึงให้คุณหลุดออกจาก อดีตที่เจ็บช้ำหรือแม้แต่ความยึดติดใดๆก็ตาม เชื่อหรือไม่ว่าสิ่งรอบตัวบางอย่างหรือหลายๆอย่างนั้น คุณอาจไม่เคยแยแส แม้แต่ก่อนที่จะพบเรื่องเศร้าด้วยซ้ำ
คำว่า “การให้เกียรติ” คำๆนี้คือวิถีคือครรลองที่สังคมของมนุษย์ที่มีจิตใจสูงในทางโลก ย่อมที่จะพัวพันกับภาวะของการให้เกียรติอยู่กันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการให้เกียรติต่อ บุคคล ให้เกียรติต่อสัญลักษณ์ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีค่าทางจิตใจ ให้เกียรติต่อสิ่งที่ยึดถือ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีบุญคุณ ในชีวิตเราและชีวิตท่านวันนี้คุณให้เกียรติคนที่คุณ "เกลียดชัง" พวกเขาแล้วหรือยัง.......

" โลกนี้จะร่มเป็นสุข อยากให้โลกนี้ดีงาม ให้เริ่มต้นที่ ใจ ตนเองเป็นอันดับแรก "

Glitter Photos

พระเชนเรซิก อวโลกิเตศวร มหาโพธิสัตว์

พระเชนเรซิก อวโลกิเตศวร มหาโพธิสัตว์