- ผู้เป็นพระแม่แห่งจักรวาล จะคอยปกป้องคุ้มครองสรรพชีวิตไว้ในอ้อมกอดอันเปี่ยมไปด้วยความรักของพระนาง ดั่งมารดาปกป้องบุตร พระแม่กรีนทาราคือหลักประกันทางจิตวิญญาณของเราในการต่อต้านภยันตรายทั้งมวลและเจตนาร้ายต่างๆ "
- มหาโพธิสัตว์อารยาตารา ภาษาทิเบต: เจซูน เตรอมา ภาษาสันสกฤตคือ ตารา ( มีรากศัพท์เดียวกับคำว่า ดารา ) ถึง
- " ผู้นำทางไปสู่การหลุดพ้น " เป็นพระโพธิสัตว์แห่งความเมตตากรุณา ทรงกำเนิดจากน้ำพระเนตรของพระอวโลกิเตศวร เมื่อครั้งที่ทรงพระกรรแสงเนื่องจากทรงไม่สามารถช่วยเหลือสัตว์ทั้งโลกทั้งหลายให้พ้นจากความทุกข์ได้ พระโพธิสัตว์ตาราทรงเป็นที่รักและกราบบูชาของชาวพุทธในทิเบต หิมาลัยและมองโกเลีย พวกเขามักสวดคาถาหัวใจ
- " โอม ตาเร ตุตาเร ตุเร โซฮา " และสวดบทสรรเสริญตารา ๒๑ องค์
- แม้เราจะเรียก พระแม่ตารา ว่าเป็น พระโพธิสัตว์ แต่เพราะทรงหลุดพ้นจากกิเลสเครื่องเศร้าหมองทั้งหลายและเข้าถึงการรู้แจ้งอย่างสมบูรณ์ เราจึงสามารถเรียกพระองค์อีกอย่างหนึ่งว่า พระพุทธเจ้า แต่สาเหตุที่พระองค์ยังได้รับการขนานนามว่า "พระโพธิสัตว์" ก็เพราะทรงตั้งมหาปณิธานที่จะไม่จากสังสารวัฏไปเพื่อการนิพพานจนกว่าสัตว์โลกไม่เว้นแม้แต่หนึ่งเดียวจะหลุดพ้นจากความทุกข์และเข้าถึงการตรัสรู้
- ในหมู่ชาวทิเบต และ ผู้ปฏิบัติในวิถีแห่ง พุทธวัชรยาน ไม่มีใครไม่รู้จักพระแม่ตารา รูปบูชาของพระองค์ในปางต่าง ๆ ปรากฏอยู่ในวัดเกือบทุกวัด และตามบ้านเรือนของพุทธศาสนิกชน พระโพธิสัตว์ตาราทรงมี ๒๑ ปาง แต่ปางที่รู้จักกันแพร่หลายคือ ตาราเขียว ( ขทิรวนีตารา ) และตาราขาว ( จินดามณีจักรตารา ) ตาราเขียวเป็นปางคุ้มครองนักเดินทางจากภัยอันตราย ทรงประทานพรให้พ้นจากความทุกข์ ความกลัว และดลบันดาลให้การงานสำเร็จโดยเร็ว
วันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2560
พระแม่ทาราเขียว มหาโพธิสัตว์
วันอาทิตย์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2560
พระพุทธเจ้าตรัสว่า... ทศทิศโลกธาตุมีมากมาย
ทศทิศโลกธาตุมีมากมาย
- และโลกธาตุเหล่านั้น ทุกข์น้อยอบายน้อย หมู่สัตว์อบรมง่าย
- จะมีแต่โลกธาตุที่มีความเสื่อม5ประการนี้เท่านั้น ที่เป็นทุกข์อย่างยิ่ง(โลกของเรา)
- เรา!!"ตถาคตจึงมาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในโลกใบนี้
- พระโพธิสัตว์และหมู่สัตว์ที่บำเพ็ญที่โลกอื่น แม้ชั้นพรหม
- ยังมีกุศลบารมีเทียบไม่ได้เลย
- กับผู้ที่อยู่ในสหาโลกธาตุนี้ แล้วมีจิตเมตตากรุณาต่อสรรพสัตว์แค่ชั่วฟ้าแลบ
- เหล่าโพธิ อย่าท้อถอย อย่าคิดถึงบ้าน
- จงภูมิใจที่เรามาทำหน้าที่เป็นลูกหลานพระพุทธองค์
- จงช่วยกันหมุนกงล้อแห่งธรรมจักรเถิด
- ความเสื่อมแห่งพุทธศาสนานั้นทรง
- แบ่งไว้5ประการ ดังนี้
- 1.เสื่อมเพราะทิฐิ เมื่อมิจฉาทิฐิรุ่งเรือง กุศลกรรมอันดีมิอาจเจริญได้
- 2.เสื่อมเพราะกิเลสเมื่อสรรพสัตว์ไร้ปัญญาถูกครอบงำด้วยตัณหาจนหลงในวัตถุเกิดความโลภกอบโกยจนเบียดเบียนกันอย่างไร้ศีลธรรม
- 3.ความเสื่อมเพราะสัตว์ คือไม่รู้กตัญญูและไม่ละอายต่อบาป ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต และทำร้ายผู้ทรงศีล
- 4.ความเสื่อมเพราะอายุเพราะมีอกุศลกรรมเพิ่มพูน จึงบั่นทอนอายุขัยมนุษย์ให้สั้นลงๆๆ
- 5.ความเสื่อมแห่งกัลป์ คือการดำรงของกัลป์สลายลง จากอุทกกภัย อัคคีภัย โรคาภัย และวิบัติภัยทั้งปวง
- แต่หัตถ์แห่งเหล่าโพธิ จะหมุนกงล้อแห่งธรรมจักร ให้ขับเคลื่อนจนถึงสิ้นพุทธันดร
- การหมุนธรรมจักร ของพระโพธิสัตว์เป็นเช่นไร
- อริยญานซึ่งเป็นพุทธิภาวะ จะหมุนธรรมจักรด้วยการแสดงในรูปแบบความเมตตา
- ความเมตตาที่นอกเหนือจากการคิดถึงตน
- การหลงลืมแล้วซึ่ง...ตนเอง
- การละเลยแล้วซึ่ง...ตนเอง
- การมีความกรุณาบริบูรณ์ต่อสิ่งทั้งปวงคือจุดกลับตัวของ"การบำเพ็ญทั้งหมด"
- เมื่อจุดกลับตัวอันลึกซึ้งนี้ปรากฎ
- "ภาวะตถาคต"
- ซึ่งเป็นอริยญานเพื่อความหลุดพ้นของสิ่งทั้งหลายทั้งปวง
- ก็จะแสดงอานุภาพออกมา
- นั้นแล...คือนิพพานล่ะ
ปล่อยจิตเดิมแท้ให้เป็นธรรมชาติของมัน ในสภาพความเป็นเช่นนั้น เราก็อยู่ใน"สมาธิ"ตลอดเวลา
- เสร็จสิ้น ภารกิจ วาระนี้
- ก่อนเดินทางกลับ ขอแสดงความขอบใจลูกๆสำหรับการรับรอง และดูแลเป็นอย่างดี
- ขอให้ลูกอาม่า ใช้ชีวิตอย่างเท่าทันทุกข์ สงบเย็นและเป็นประโยชน์ เจอกันเดือนหน้านะคะในทริป"พาลูกกราบพ่อ" เพชรบุรีิ
- อาม่าภูมิใจที่ลูกๆอาม่ามีปัญญา เข้มแข็งและทำมาหากิน ทำหน้าที่ถูกต้องตามเหตุปัจจัย
- ขอให้ลูกๆอย่าแยกชีวิตออกจากธรรม ดำเนินชีวิต ด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา หลอมรวมในชีวิตจริงที่ดำรงอยู่ และอย่างที่อาม่าได้แสดงธรรมเสมอว่า
- สมาธิและปัญญาของพระโพธิสัตว์
- ไม่เคยแยกออกจากกัน
- อยู่ในความว่าง...โดยไม่ตัดขาด
- อยู่ในความไร้...โดยไม่ดับสูญ
- ทุกขณะล้วนดำรงอยู่ในสมาธิ
- ที่ไร้ร่องรอย ...
- การไป การมา การเข้า การออก
- แค่ทำใจให้ว่าง แต่ไม่ใช่ไม่มีอะไร
- แค่ให้ใจได้ทำหน้าที่อย่างอิสระ
- โดยเราไม่ได้ควบคุม
- หรือเป็นเจ้าของในทุกอิริยาบถ
- ไม่ต้องไปคิดเรื่องหลุดพ้นไม่หลุดพ้น
- ไม่ต้องไปคิดอยากเป็นปุถุชนหรืออริยะ
- ไม่ต้องไปคิดว่ามีการกระทำ ผู้ถูกกระทำ สิ่งถูกกระทำ
- ปล่อยจิตเดิมแท้ให้เป็นธรรมชาติของมัน ในสภาพความเป็นเช่นนั้น
- เราก็อยู่ใน"สมาธิ"ตลอดเวลา
- และสมาธิชนิดนี้นี่แหละ ที่เป็นกัมมนีโย คือควรค่า แก่การงานและการพิจารณาธรรม
- #อาม่า#พระเชนเรซิก
สิ้นโลกเหลือธรรม
- นักข่าว - หลวงพ่อไม่รู้เหรอว่า การทำรูป เหรียญวัตถุมงคล ทำให้คนหลงติดในวัตถุ
- หลวงพ่อคูณ - รู้ กูรู้ก่อนมึงโน่น แต่กูก็ทำ #เพราะกูทำแล้วกูได้เงินมาสร้างโรงพยาบาล #สร้างโรงเรียนให้คนยากคนจนมัน
- #ถ้ากูไม่ทำแล้วใครจะทำ
- #หรือมึงจะทำ
- #ถ้ามึงจะทำแล้ว #กูจะเลิก
- Cr.สิ้นโลกเหลือธรรม
พุทธโพธิจริยา...นั้นยิ่งใหญ่เสมอ
- พุทธโพธิจริยา...นั้นยิ่งใหญ่เสมอ
- ลูกรัก...คราใดที่เจ้าปรารถนาพ้นทุกข์
- และสรรพสัตว์เป็นสุข
- โพธิจิต....คือที่สุดของทุกสิ่ง
- ลูกรัก...
- เมื่อโพธิจิตอุบัติแก่เจ้าแล้ว
- แม้เจ้ายังเกี่ยวข้องในกิเลสและวัฏสงสาร
- เจ้าก็ยังได้รับการยอมรับและเคารพจากมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย
- ลูกรัก...แม้เจ้าเคยเป็นคนบาปชั่วร้าย
- แค่โพธิจิตอุบัติกลางใจเจ้าแค่ชั่วฟ้าแลบ
- เจ้าก็จะกลายเป็นมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่เดี๋ยวนั้นเลย
- ลูกรัก...
- วิถีแห่งโพธิจิต ประเสริฐยิ่งใหญ่ดุจห้วงน้ำในจักรวาล
- ส่วนวิถีอื่น เป็นแค่พรรณไม้ที่ยังต้องอาศัยน้ำอยู่
- จำไว้นะลูก "โพธิจิตนี้"หากผู้ใดมีและครอบครอง
- เขาย่อมนำประโยชน์มาสู่สรรพสัตว์อันหาประมาณมิได้
- และเขาจักสุขสมบูรณ์ทุกขณะ
- ไม่ว่าหลับ หรือตื่น
- รักของพระโพธิสัตว์มิได้จำกัดอยู่ที่บุคคลใดเพียงบุคคลเดียว และยังข้ามผ่านความรักในตัวตนของตนอีกด้วย
- 💞💞ยังปิติไม่หาย ภาพเหตุการณ์ที่เด็กกำพร้าน้อยๆคนหนึ่ง ตะโกนเรียกแล้ววิ่งมาแต่ไกล
- เพื่อขออ้อมกอดจากอาม่า ขอความอบอุ่น ขอนั่งตักเพื่อชดเชยสิ่งที่ขาดหายไปในชีวิตเขา
- ดีใจที่ได้มาบริจาคทำบุญ
- ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งค่าอาหารเจ้า
- ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งค่าขนมไปโรงเรียนของเจ้า
- ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องแบบนักเรียนของเจ้า
- ดีใจที่ได้มีส่วนในชีวิตน้อยๆของเจ้า
- อาม่ายังมุ่งมั่นเดินตามฝันที่จะบำเพ็ญประโยชน์ต่อไป
- ทั้งที่บำเพ็ญมาแล้วในทุกกิจกรรมที่ผ่านมา
- และที่จะทำต่อไปในกาลข้างหน้า
- ให้สมกับที่ อุบัติมาในโลกใบนี้ เพื่อให้คนหมั่นใส้เล่น
- #ทุกภาพทุกโพธิจริยาจะอยู่ในหัวใจตลอดกาล#
- แม้หญ้าทุกเส้น ก็จะเข้าสู่ สภาพเดิมแท้แห่งพุทธะ
- นามธรรม และ รูปธรรม
- การแสดง อาจถูกแบ่งแยกเป็น2ส่วน
- แต่แท้ที่จริง มันรวมอยู่ในสิ่งเดียว
- นั้นคือ รวมอยู่ในความคิด(การปรุงแต่งแบ่งแยกของมนุษย์)
- และ..ความคิดจะเป็นจริงได้
- ก็ด้วยการนำเอาออกมาใช้เท่านั้น
- คนเรานั้น จริงๆแล้วก็เหมือนพี่น้องกันทั้งหมด
- ไม่ว่าเราจะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม
- มีชีวิตหรือไม่มีชีวิตแล้วก็ตาม
- ชีวิตทุกรูปนาม ย่อมเฉลี่ยแบ่งออกมาจากเนื้อแท้อันเป็นนิรันดร์(นิพพาน)
- ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งหมดล้วนมีชีวิตอยู่และไม่มีความตาย
- นอกจากจะเปลี่ยนสภาพจากสิ่งหนึ่งไปสู่สิ่งหนึ่งเรื่อยๆเท่านั้น
- เอกภพ จึงเป็นรูปแบบหนึ่งของกฎธรรมชาติ
- แต่"ความรัก" คือการปฎิบัติตามกฎของธรรมชาติอย่างแท้จริง
- ความรักคือธาตุประสาน สรรพสิ่งทั้งปวงที่กำลังหลอกลวงตัวเองว่าแยกกันอยู่ ให้กลับมารวมกัน
- แต่ท้ายที่สุด ทุกสรรพสิ่งก็จะรู้ตัวว่าเราคือหนึ่งเดียวกันทั้งหมด เมื่อแจ้งในธรรมตถตา เช่น"พระตถาคต"
- ส่วนการคิดว่าจะแบ่งแยกตน ออกไป เดินทางคนเดียว
- คือความคิดที่นอกวิถี นอกเส้นทาง
- และนอก"เอกยาน"แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งสิ้น
- อาม่า#พระเชนเรซิก#
วันพุธที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2560
มหาปนิธานของพระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์นั้น มุ่งหวังช่วยสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์
- มหาปนิธานของพระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์นั้น มุ่งหวังช่วยสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์
- แต่การโปรดนั้น จะมีข้อยกเว้น อันได้แก่
- ผู้ที่สร้างอนันตริยกรรม
- ผู้ที่ฆ่าคุรุแห่งตน
- ผู้สมาทานพุทธศาสนาแล้วกบฏพุทธศาสนา
- ผู้ติฉินนินทาพระสัทธธรรม
- ผู้ทำลายล้างพระพุทธศาสนา
- นอกจากนี้แล้ว ขอเพียงพลิกจิต สำนึกในบาปบุญ แล้วหันหน้ามาขอความกรุณา ย่อมได้รับการคลี่คลายโอบอุ้ม และคุ้มครองจากพุทธานุภาพแห่งพระองค์ เสมอ
โลกียะ และโลกุตตระ นั้นอยู่ด้วยกัน ตั้งปรากฎเป็น"ธรรมคู่"
- โลกียะ และโลกุตตระ นั้นอยู่ด้วยกัน ตั้งปรากฎเป็น"ธรรมคู่" ซ้อนกันอยู่
- ผู้ที่มองอย่างโลกียะ ก็จะมองสิ่งนั้นสิ่งนี้แตกต่าง และเข้าไปจับฉวยด้วยใจ สะท้อนออกมาเป็นความรัก ความชัง แล้วปรุงแต่งเป็นความสุข ความทุกข์ โคมไฟฟ้า โต๊ะ ตู้ หนังสือ คน สัตว์ ล้วนแตกต่าง
- แต่............
- ผู้ที่มองอย่างโลกุตตระ ย่อมมองเห็นทุกสิ่งเป็นสิ่งเดียวกันหมด
- ไม่ว่า โคมไฟฟ้า โต็ะ ตู้ หนังสือ คน สัตว์ คือมองเห็น สามัญญลักษณะ ของสิ่งทั้งปวงไม่เที่ยง เปลี่ยนแปลงเป็นอนัตตา เป็นความหมุนเวียนของธาตุทั้งหลาย ตามเหตุปัจจัย
- ล้วนน่าระอา หาสาระ ที่ไปหยิบฉวยยึดถือเป็นตัวตนไม่ได้
- ทั้งโลก...จึงมีแต่ความลวงของกฎขนาดและเวลาเท่านั้น
- ความจริงกับความเท็จ
- ความดีกับความชั่ว สูงต่ำ บุญบาป
- ก็เป็นแค่สังขตธรรมที่เกิดจาก จิตตสังขาร คือการปรุงแต่งของจิตนั่นเอง
- ดังนั้น การมองโลกของพระอริยะเจ้า
- ดั่งคำที่ว่า"โลกราบเป็นหน้ากลอง"
- ไม่ใช่ต้นไม้ล้ม เสาไฟฟ้าล้ม หรือปาฎิหารย์โลกแบนอย่างที่เข้าใจ
- แต่ในสายตาท่าน ทุกอย่างเป็น"ความว่าง"ที่เสมอเท่ากันหมด
- ในลักษณะสามัญ ของการเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป
- #อาม่า#พระเชนเรซิก
วันอังคารที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2560
สอนคนอื่นได้ ตนเองต้องทำได้ด้วย
- พระโพธิสัตว์นั้น ล้วนมีจิตวิญญานแห่งความเป็นครูสูงส่ง เกินกว่าที่จะแปดเปื้อน หรือโดนวางยาด้วยยาพิษ แห่ง การมี การเป็น อันเป็นเหยื่อที่ใช้วางกับดักสัตว์โลกทั่วไปได้
- ด้วยจิตวิญญานแห่งความเป็นครู ที่สั่งสมมาหลายภพชาติ นอกจากไม่ถูกวางยาแล้ว ความเท่าทันนั้นยังทำให้ไม่อาจวางยาลูกๆ
- ด้วย การสอนให้ถือให้ยึด ให้หลง ในธรรมใดๆ แม้ธรรมนั้นหากหลงยึดแล้วจะนำมา เพื่อประโยชน์ตน
- ความเป็นครูนั้น มีหลักสำคัญว่า
- "สอนคนอื่นได้ ตนเองต้องทำได้ด้วย"
- ใช่ว่า สักแต่ใช้สัญญาความจำมาพร่ำสอนโดยขาดสภาวธรรมที่ตนเองเข้าถึงและเข้าใจ
- สิ่งที่นำความปลาบปลื้ม อันเป็นที่สุดของอาม่าในวันนี้ คือเห็นความแข็งแกร่ง และการมีภูมิต้านทานโลก อย่างพัฒนาของลูกศิษย์
- หลายคนเคยอ่อนปวกเปียกเมื่อแรกเจอ แต่วันนี้ กลับเข้มแข็ง และลอยตนรู้เท่าทันความทุกข์ ทำมาหากิน ทำหน้าที่ถูกต้องตามเหตุปัจจัย
- ปัญญาบารมีลูกๆพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เข้าใจโลกธรรม8 มีดวงตาเห็นธรรม มองเห็นไตรลักษณ์ อันเป็น สามัญลักษณะ
- รู้ทุกข์ เห็นทุกข์ แต่...ไม่ทุกข์
- ที่สำคัญ สงบ เย็น และเป็นประโยชน์
- นี่...คือความสำเร็จอันยิ่งใหญ่สำหรับอาม่าอย่างแท้จริง!!!
- สถานธรรมใดเล่า จะอลังการและศักดิ์สิทธิ์ มีคุณค่าต่อการพักอาศัย
- เท่ากับได้ "สถิต"ในหัวใจลูกๆ ในฐานะแสงสว่างแห่งโพธิธรรม
วันจันทร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2560
พระอมิตภพุทธเจ้า วางพระหัตถ์ลง บนพระเศียรของ พระอวโลกิเตเศวร และรับสั่งว่า
- พระอมิตภพุทธเจ้า วางพระหัตถ์ลง
- บนพระเศียรของ พระอวโลกิเตเศวร
- และรับสั่งว่า
- " ณ บัดนี้
- ลูกจะเป็นผู้ที่ทำให้จิตของสรรพสัตว์ทั้งหลาย
- ผู้ที่ยังไม่เจริญ ณ ดินแดนแห่งหิมะ อ่อนโยนลง
- ที่ซึ่งพระพุทธเจ้าทั้งสามกาล
- ยังไม่เคยเสด็จไปแม้แต่พระองค์เดียว
- นี่คือผลของการสวดอธิษฐานอย่างจริงใจ
- เพื่อวัตถุประสงค์ที่ลูกปรารถนา
- สรรพสัตว์ที่มีทุกข์เหล่านั้น
- จะพ้นจากภูมิชั้นต่ำทั้งสาม
- ทันทีที่พวกเขาเห็นกายอันศักดิ์สิทธิ์และอ่อนเยาว์ของลูก และได้ยินเสียงแห่งมนต์ 6 พยางค์
- โอม ม ณี ปัท เม หุม
- ขอให้โพธิจิตของลูก ไปปรากฏในจิตของ ผี ปีศาจ มาร
- ขอให้พวกเขา แทนที่จะไปทำร้ายผู้อื่น
- มีจิตมุ่งมั่นพยายาม ในการทำประโยชน์แก่ผู้อื่น
- ดุจดั่ง พระโพธิสัตว์
- ขอให้สัตว์ ล่าเนื้อทั้งหลาย
- อธิ เสือ เสือดาว หมี และ หมีหิมะ
- ขอให้จิตของเขาละทิ้งจากการกินสัตว์อื่น
- ไปสู่การมีความรักต่อกัน
- ดุจความรักของบิดามารดา
- เมื่อได้เห็น กายศักดิ์สิทธิ์ของลูก
- และ ได้ยินเสียงมนต์ทั้งหกพยางค์
- เทศน์สอนโดย
- ตุลกู ดิลโก รินโปเช
ตำนานพระโพธิสัตว์ราหูเทพอสุรินทร์
- ในบรรดาเทพนพเคราะห์ทั้ง 9 องค์นั้น มีเพียง.... #พระราหู พระองค์เดียวเท่านั้นที่เป็นพระโพธิสัตว์และได้รับการพยากรณ์แล้ว ....แม้ #พระอาทิตย์ และ #พระจันทร์ ผู้มีบุญญาธิการอันสูงส่ง ก็มิได้เป็นพระบรมโพธิสัตว์
- เช่น #พระราหู ดังนั้น การนับถือ #พระราหู จึงมิใช่... การบูชาภูตผีปีศาจ
- แต่เป็นการบูชาพระโพธิสัตว์ในรูปกายแห่ง #เทพอสูร อันเป็นคติสอนให้พิจารณาว่า " อย่ามองที่รูปกายภายนอก " แม้ว่ารูปกายแห่งพระราหูจะดูดุดันน่ากลัว แต่คุณธรรมภายในนั้นกลับตรงข้าม #พระราหู เป็นเทพอสูรที่บำเพ็ญบารมีเพื่อบรรลุพระโพธิญาณมานับชาติไม่ถ้วน ภายในจิตใจมีแต่ความปรารถนาดีต่อมวลมนุษย์
- สิ่งเลวร้ายในชีวิตมนุษย์นั้นย่อมเกิดจากผลกรรมเก่าและใหม่ที่ตนก่อไว้ .... เมื่อถึงเวลากรรมนั้นย่อมเป็นไปตามกลไกของมัน #พระราหูเทพอสุรินทร์ เป็นเพียงพยานแห่งการกระทำกรรมของมนุษย์ หาได้ให้ร้ายใคร
- ส่วนเรื่องอิทธิฤทธิ์ของ #พระราหู นี้มีมากนัก แม้ว่าต่อมาจะเหลือร่างกายเพียงครึ่งเดียว แต่ก็ทรงตบะเดชะไม่เป็นสองรองใคร ซ้ำยังสามารถเข้าบดบัง #พระอาทิตย์ และ #พระจันทร์ ได้ ซึ่งอำนาจในการบดบังพระอาทตย์นี้
- ครูบาอาจารย์บางท่านได้กล่าวสรรเสริญว่า ....แม้ดวงอาทิตย์ที่ร้อนแรงก็ยังมีพระราหูมาบดบังให้เยือกเย็น
- ท่านจึ่งว่าพระราหูนั้นมีคุณในการ #ดับร้อนให้เป็นเย็น และมีอำนาจในการบังตาที่น่าอัศจรรย์
- ในการอธิษฐานขอบารมีพระราหูที่ถูกต้องนั้นให้อธิษฐานอ้างเอาคุณพระศรีรัตนตรัยขึ้นก่อน จากนั้นอธิษฐานถึงพระราหูว่า ... " ขออำนาจบารมีพระอุสรเทพบรมพระโพธิสัตว์เสด็จพ่อพระราหู จงมาโปรดแก่ลูกด้วย "
- แล้วทำการอธิษฐาน ทั้งนี้เพราะ #พระราหู นั้นมีเพศเป็นยักษ์และอยู่ในระดับอสูรเทพ และยังมีบารมีธรรม
- เป็นพระโพธิสัตว์ที่ได้รับการพยากรณ์จาก #พระพุทธเจ้า ว่าจะต้องสำเร็จมรรคผลโพธิญาณอย่างแน่แท้
- พระโพธิสัตว์ที่ได้รับการพยากรณ์เช่นนี้จากพระพุทธเจ้า ถือว่าเป็น #พระโพธิสัตว์ที่เที่ยงแท้ บำเพ็ญบารมีถึงเส้นชัยแล้วจึงได้รับการขนานพระนามเป็นเกียรติว่า .... พระบรมโพธิสัตว์
- การอธิษฐานอ้างถึงคุณงามความดีของพระราหูดังกล่าว จึงถือเป็นอาราธนาคุณของพระราหูทั้งด้าน #บุญฤทธิ์ และ #อิทธิฤทธิ์ พร้อมกันในตัว ..... " ถือเป็นสริริมงคลแก่ผู้ระลึกถึงเป็นอย่างมาก "
วันอาทิตย์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2560
ไม่มีธรรม นั่นแหละธรรม
"จิตคือพุทธะ" โดย หลวงปู่ดุลย์ อตุโล วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์
ผมไปพบบทความที่น่าสนใจ เห็นว่าเป็นประโยชน์กับผู้ปฏิบัติธรรม
|
เห็นทุกข์ รู้จักทุกข์ ก็จะไม่ทุกข์
เห็นทุกข์ รู้จักทุกข์ ก็จะไม่ทุกข์!!!
แท้ที่จริง ทุกข์นั้น เกิดจากความคิดเราสถานเดียว
ความคิดสร้างจักรวาล สร้างนรกสวรรค์ และสร้างทุกสรรพสิ่ง ด้วยเหตุนี้ ไอน์สไตน์จึงให้คุณค่ากับคว
"จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
มนุษย์ทุกคนในโลกคิดเป็น
แต่ใช้ความคิด....ไม่เป็น !!!
ความคิดมนุษย์มาจากความเคยช
มนุษย์จึงเหมือนน้ำ
อยู่ในขวด หรือภาชนะใด ก็จะเป็นรูปทรงของภาชนะนั้น
หากมนุษย์เรียนรู้วิธีคิด คิดเป็น คิดอย่างเข้าใจ มนุษย์ผู้นั้น ก็จะไม่ทุกข์
"ความสุข ความทุกข์ ล้วนเริ่มต้นจากความคิด"
คิดถึง เป็นห่วง สงสาร โกรธ เกลียด น้อยอกน้อยใจ
สารพัดสารพันจะสรรสร้าง
รู้เท่าทันความคิด รู้จักคิด คิดเป็น
มนุษย์ผู้นั้น ก็จะมีโลกใบใหม่ ที่ไม่ต้องเหวี่ยงขึ้นเหวี่
ดังคำกล่าวที่ว่า....
จงระวังความคิด เพราะมันจะกลายเป็นความประพ
จงระวังความประพฤติ เพราะมันจะกลายเป็นความเคยช
จงระวังความเคยชิน เพราะมันจะกลายเป็นนิสัย
##และนิสัยนั้นแล ก็กำหนดชะตากรรมเธอ ชั่วชีวิต#
วันเสาร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2560
ทำไม"ความอยากรวย"จึงเป็นสิ่งผิดล่ะ
- ทำไมคนจำนวนมากคิดว่าการเสียสละและ จน เป็นฮีโร่ ไม่มีอะไรผิด ถ้าคุณอยากรวย เพราะถ้าคุณรวย
- 1.คุณไม่ต้องเป็นภาระของสังคม แต่กลายเป็นคนที่ช่วยสังคมได้ เช่น จ่ายภาษีได้มากขึ้น เสียสละการกุศลได้มากขึ้น สร้างงานให้คนอื่นได้
- 2.คุณจะเพิ่มอิทธิพล ในการเปลี่ยนโลกได้
- 3.เงิน จะให้อิสรภาพกับคุณ อิสระที่จะ....เลือกงานที่อยากทำได้โดยไม่ต้องทำงานที่ไม่ชอบ สร้างงาน สร้างโปรเจ็กต์ขึ้นมาเองได้โดยไม่ต้องขอเงินใคร ทำงานเวลาไหนก็ได้ทำงานเท่าไหร่ก็ได้ตามความเหมาะสมของตนเองและครอบครัว อยู่ที่ไหนก็ได้ ตามความต้องการ
- "ถ้าความร่ำรวยเป็นสิ่งที่ไม่ใช่เป้าหมาย"
- ใส่มันลงไป 1 ข้อในความฝันคุณเถอะ
- ประเด็นสำคัญมันอยู่ที่ว่า....
- จงรวยเพราะทำสิ่งที่รัก
- จงรวยเพราะทำงานสุจริต
- จงรวยแล้วรับใช้ แบ่งปันสังคม
- จงรวย!!! เพื่อใช้ความรวยต่อยอด
- ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่เกื้อกูลโลก
- มีคนมากมาย ที่แค่คิดอยากจะรวย ก็รู้สึกผิด
- ทั้งๆที่ มันมีหลากหลายมิติที่จะมอง
จุดมุ่งหมายของกลุ่มโพธิญาน# มี3ข้อคือ
อาม่า#พระเชนเรซิก#
เปิดพลังแห่ง ความสุข.............
การให้เกียรติสิ่งรอบตัวถือเป็นการเปิดพลังแห่งทัศนคติใหม่ และยังเสริมการมองเห็นทัศนวิสัย ให้ก้าวสู่โลกที่มีคุณค่า และนอกจากนี้ยังทำให้คุณตื่นขึ้นมาเห็นความจริงรอบตัว ที่คุณอาจจะไม่เคยเห็น และรับรู้คุณค่าของสิ่งรอบตัวเรา หรือสังคมของเรา แล้วเรียนรู้ที่จะรักในสิ่งที่ควรรัก รักในสิ่งที่ให้ความรู้สึกดีๆที่ตอบแทนมาอย่างมีคุณค่าจริงๆ มันจะช่วยฉุดดึงให้คุณหลุดออกจาก อดีตที่เจ็บช้ำหรือแม้แต่ความยึดติดใดๆก็ตาม เชื่อหรือไม่ว่าสิ่งรอบตัวบางอย่างหรือหลายๆอย่างนั้น คุณอาจไม่เคยแยแส แม้แต่ก่อนที่จะพบเรื่องเศร้าด้วยซ้ำ
คำว่า “การให้เกียรติ” คำๆนี้คือวิถีคือครรลองที่สังคมของมนุษย์ที่มีจิตใจสูงในทางโลก ย่อมที่จะพัวพันกับภาวะของการให้เกียรติอยู่กันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการให้เกียรติต่อ บุคคล ให้เกียรติต่อสัญลักษณ์ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีค่าทางจิตใจ ให้เกียรติต่อสิ่งที่ยึดถือ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีบุญคุณ ในชีวิตเราและชีวิตท่านวันนี้คุณให้เกียรติคนที่คุณ "เกลียดชัง" พวกเขาแล้วหรือยัง.......
" โลกนี้จะร่มเป็นสุข อยากให้โลกนี้ดีงาม ให้เริ่มต้นที่ ใจ ตนเองเป็นอันดับแรก "