วันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

พระสมันตภัทร


อัศจรรย์แห่งพระโพธิสัตว์
ตอนที่ ๔ 
“ พระสมันตภัทร ”
พระสมันตภัทรโพธิสัตว์ เป็นกายโพธิสัตว์ประเภทหนึ่งที่มีบารมีล้นเกินไป ที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า 
ท่านจึงไม่อาจตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าบนโลกได้ แต่ได้ตั้งปณิธานช่วยเหลือกิจพุทธศาสนาสืบไป 
จากนั้น ท่านก็จะบรรลุเป็นพระยูไล เมื่อทำกิจช่วยศาสนาพุทธบนโลกแล้วจะจุติไปยังสวรรค์สุขาวดี แล้วเป็นพระพุทธเจ้าบนสวรรค์แทนจนกว่าจะนิพพาน
พระสมันตภัทรมีลักษณะพิเศษกว่าพระโพธิสัตว์องค์อื่นๆ มากมาย เช่น ท่านไม่จำเป็น ต้องรับธรรมหรือการสอนจากใครเลย 
ท่านนั้น สามารถบรรลุธรรมได้เอง ด้วยอาศัยเพียงศรัทธาในพระพุทธเจ้า จิตตรงต่อพระพุทธเจ้า (เพื่อจะไม่บรรลุเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า) 
เมื่อถึงวาระอันควรก็จะบรรลุธรรมเองไม่มีครูแนะนำขณะนั้นๆ (แม้จะมีครูมาก่อนหน้านี้ก็ตาม) เช่น พระอานนท์ที่บรรลุธรรมขณะกำลังเอนตัวลงนอน นี่คือ ลักษณะของท่าน
การเปลี่ยนแปลงทางกายทิพย์ของพระสมันตภัทร

๑) การเปลี่ยนแปลง พลังมารเป็นพลังเทพ
พระสมันตภัทรเมื่อได้กายทิพย์แรกๆ จะอาศัยพลังมารเป็นพลังทำกิจ กายของท่านใสมาก จิตบริสุทธิ์มาก บารมีเทียบได้ ๑๗ อสงไขย ทำให้ง่ายต่อการบรรลุธรรมเองได้มาก จึงต้องอาศัยพลังมารมาขับเคลื่อน เพื่อไม่ให้กลายเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าโดยผิดเวลา จากนั้นท่านจะใช้พลังมารทำกิจ ส่งผลให้ก่อกรรมหรือทำสิ่งผิดพลาดได้มาก เมื่อได้รับการตำหนิอย่างรุนแรงจาก “พระมัญชุศรี” ซึ่งทรงสิงห์มีพลังธาตุไฟอยู่ พลังธาตุไฟจะขับพลังมารออกไป แล้วพลังธาตุไฟจะเข้าแทนที่ กลายเป็น “พลังเทพ” แทน “พลังมาร”

๒) การเปลี่ยนแปลงกายมีรูปเป็น “อรูป”
  • พระสมันตภัทรเมื่อถูกมารรบกวนมากๆ มารจำนวนมากจะรุม (ยกเว้นพญามาร) ถึงที่สุดแล้ว จะ “ระเบิดกายทิพย์” ทำให้มารจำนวนมากที่มารุมนั้นตายทั้งหมด เมื่อถึงจุดนี้ ท่านจะไม่มีรูปกายทิพย์ จากรูปกายทิพย์ เป็น “อรูป” เมื่อเพ่งด้วยตาทิพย์จะเห็นเป็นเหมือนแสงสว่างที่ไม่มีรูปร่างกำหนดชัดเจน เหมือนแสงที่สว่างออกมาจากดวงอาทิตย์แต่ไม่มีดวงอาทิตย์ ช่วงนี้ปราณละเอียดนั้นจะรั่วไหลออกจากกายสังขารจนตายได้ ถ้าไม่มีบุญบารมีเหลือรองรับก็จะตายใน ๗ วัน เนื่องจากกายทิพย์สลายแล้ว แต่ถ้ามีบุญต่ออายุได้ ก็จะมี “จิตวิญญาณ” อื่นๆ เข้ามาครอบขันธ์ให้ เช่น พาหนะทรงของท่าน พวก ช้างทิพย์ เป็นต้น เมื่อจิตวิญญาณที่มีรูปกายทิพย์เข้ามาครอบขันธ์ไว้ ลมปราณจะไม่รั่วไหลจนตาย

๓) การเปลี่ยนแปลงโดยสลายกายขึ้นยูไล
  • กรณีนี้เกิดเมื่อสลายกายทิพย์จนไม่มีกายทิพย์เหลือแล้ว และบำเพ็ญบารมีได้เต็มที่พอดี จึงได้สำเร็จ “ยูไล” แต่จะได้ด้วยการ “ครอบขันธ์” คือ พระยูไลจะทรงแบ่งกายทิพย์ถอดออกมาครอบขันธ์ให้ หลังจากที่ท่านระเบิดกายทิพย์กำจัดมาร สลายกายทิพย์หมดแล้ว 

  • นี่คือ วิธีการบรรลุธรรมแบบฉับพลันถึงขั้นยูไลของพระสมันตภัทร ซึ่งจิตท่านไม่ยึดมั่นอะไรมานานแล้ว อีกทั้งก็มีจิตใจที่ใสซื่อมาก เพียงแต่มีวิบากกรรมที่ชดใช้ไม่หมด ทำให้ต้องมีเรื่องกับมาร และถึงที่สุดที่จะหมดกรรม ก็จบลงด้วยอาการอย่างนี้ ส่วนกายยูไลที่ครอบขันธ์ให้นั้นเป็นแบบ “อามิตาภะ” คืออยู่ฝั่งตะวันตกและบำเพ็ญภาคปราบเป็นสำคัญ
  • พระสมันตรภัทร เป็นพระโพธิสัตว์คู่ หยิน-หยาง กับพระมัญชุศรี จะทรงช้างเป็นพาหนะ ช้างทิพย์มีหลายตระกูล 
    • ตระกูลช้างฉัททันต์ จะมีหกงา 
    • ตระกูลช้างเอราวัณจะมีหกเศียร แล้วแต่ว่าท่านจะบำเพ็ญบารมีได้ช้างตระกูลไหนเป็นพาหนะทรง 
    • ถ้าทรงช้างฉัททันต์จะทำกิจยิ่งใหญ่ ยากและหนักหนาสาหัสกว่าจะสำเร็จได้ 
    • ถ้าทรงช้างเอราวัณจะเกี่ยวข้องกับคนหลายกลุ่มหลายฝ่าย (เป็นช้างที่มีสามเศียร) ประสานงานกับคนหลายจำพวก เข้ากับคนได้มาก 
    • นอกจากนี้ยังทรงสัตว์ทิพย์อื่นได้ด้วย เช่น จิ้งจอกเก้าหาง, มังกรดำ
พุทธบาท 
โอกาสแห่งการชำระกรรม 
ด้วย แสงธรรม ไร้ประมาณ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เปิดพลังแห่ง ความสุข.............

การให้เกียรติสิ่งรอบตัวถือเป็นการเปิดพลังแห่งทัศนคติใหม่ และยังเสริมการมองเห็นทัศนวิสัย ให้ก้าวสู่โลกที่มีคุณค่า และนอกจากนี้ยังทำให้คุณตื่นขึ้นมาเห็นความจริงรอบตัว ที่คุณอาจจะไม่เคยเห็น และรับรู้คุณค่าของสิ่งรอบตัวเรา หรือสังคมของเรา แล้วเรียนรู้ที่จะรักในสิ่งที่ควรรัก รักในสิ่งที่ให้ความรู้สึกดีๆที่ตอบแทนมาอย่างมีคุณค่าจริงๆ มันจะช่วยฉุดดึงให้คุณหลุดออกจาก อดีตที่เจ็บช้ำหรือแม้แต่ความยึดติดใดๆก็ตาม เชื่อหรือไม่ว่าสิ่งรอบตัวบางอย่างหรือหลายๆอย่างนั้น คุณอาจไม่เคยแยแส แม้แต่ก่อนที่จะพบเรื่องเศร้าด้วยซ้ำ
คำว่า “การให้เกียรติ” คำๆนี้คือวิถีคือครรลองที่สังคมของมนุษย์ที่มีจิตใจสูงในทางโลก ย่อมที่จะพัวพันกับภาวะของการให้เกียรติอยู่กันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการให้เกียรติต่อ บุคคล ให้เกียรติต่อสัญลักษณ์ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีค่าทางจิตใจ ให้เกียรติต่อสิ่งที่ยึดถือ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีบุญคุณ ในชีวิตเราและชีวิตท่านวันนี้คุณให้เกียรติคนที่คุณ "เกลียดชัง" พวกเขาแล้วหรือยัง.......

" โลกนี้จะร่มเป็นสุข อยากให้โลกนี้ดีงาม ให้เริ่มต้นที่ ใจ ตนเองเป็นอันดับแรก "

Glitter Photos

พระเชนเรซิก อวโลกิเตศวร มหาโพธิสัตว์

พระเชนเรซิก อวโลกิเตศวร มหาโพธิสัตว์