วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

บุญแห่งกรรมฐาน


ก า ร ล ะ
บุญ ทาน ที่กระทำนั้น 
ทานที่ยิ่งใหญ่นั้นคือการให้อภัยทาน 
แต่มีบุญและทานที่ยิ่งกว่าอภัยทานอีก 
คือการละ 
นั่นก็เรียกว่าบุญแห่งกรรมฐาน 
ย่อมเป็นใหญ่กว่าบุญทั้งหลายทั้งปวง 
บุญกรรมฐานเรียกว่าเพียรละ นั่นคือหัวใจ 
.
จะละอย่างไรเล่า 
คือละความโกรธ ละความหลง ละความอยาก 
ถ้าทำได้ นี่คือหัวใจของศาสนา 
เป็นหนึ่งไม่มีสอง 
ถ้าสิ่งที่กล่าวนั้น แม้บรรพชิตก็ตาม 
คฤหัสถ์ก็ตาม สมณะชีพราหมณ์ก็ตาม 
พุทธบริษัททั้งหลายทั้งปวง 
ไม่ได้กระทำตนเช่นนี้แล้วไซร้ 
ให้มีฤทธิ์แค่ไหน ก็พ้นทุกข์จากวัฏฏะ 
จากทะเลทุกข์นี้ไม่ได้ 
.
แล้วจะทำอย่างไรจะถึง 
เข้าถึงหัวใจ ก้นบึ้งแห่งกรรมฐานได้ 
ต้องทำอย่างไร
เขาบอกว่าถ้าลดสิ่งที่พอใจได้มากแค่ไหน 
ก็ได้กำไรมากเท่านั้น 
ถ้ามีความอยากมากแค่ไหน 
ก็ทุกข์มากแค่นั้น 
นี่คือมันสวนกระแสแห่งกรรม 
.
ทนเวทนาได้มากแค่ไหนก็ตาม 
ไม่ว่าจะเป็นทางกายหรือทางจิตใจที่ถูกกระทบมา 
ในความไม่พอใจ ความหดหู่ใจ ความเศร้าหมองใจ 
สิ่งเหล่านี้เรียกว่าทุกข์ทั้งนั้น ที่มันมีอยู่จริงที่สัมผัสมันได้ 
เมื่อทนได้มากแค่ไหน 
จิตก็จะมีความกล้าแกร่งได้มากแค่นั้น 
บุญกุศลก็จะเติบโต อินทรีย์โยมก็จะแก่กล้า 
ดังนั้น เมื่อเรานั้นยังไม่แก่กล้า ยังไม่เข้มแข็งพอ 
เราก็ต้องฝึกหัดเดิน หัดนั่ง หัดนอน หัดยืนให้เป็น 
.
การเดิน ยืน นั่ง นอนให้เป็น 
เป็นอย่างไร 
คือเดินก็ยังมีสติ นั่งก็มีสติ นอนก็มีสติ 
เมื่อยืนเดินนั่งนอนได้แล้วอย่างมีสติ 
ไม่ว่าจะอยู่ในอริยาบถใด 
ตัวรู้ ตัวญาณ ตัวปัญญาย่อมบังเกิดได้ทุกขณะ 
ธรรมนั้นเมื่อใครมีสติกำหนดรู้แล้วไซร้ 
ไม่ว่าอยู่ที่ใด มืดหรือสว่าง ทุกข์หรือสุข 
ผู้นั้นย่อมมีปัญญารู้ได้ 
ว่าสิ่งนั้นมันให้โทษให้คุณประการใด 
มันมีสิ่งที่เร้นลับจอมปลอมแอบแฝงอยู่หรือไม่ 
นั่นคืออวิชชาที่มาบดบังดวงจิต ที่ไปหมายปองพอใจ 
ยึดมั่นถือมั่น ในรูปรสกลิ่นเสียง 
นั่นเรียกว่ากามคุณที่ไปติด ไปพอใจ 
.
ไม่มีทางใดในโลกนี้
ที่จะชนะกิเลสตัณหามารนี้ได้ 
มีทางเดียวคือลดละ 
การลดละนั้นลดอย่างไร 
ลดการเสพ ลดการนอน ลดการกิน 
ลดการเจรจา ลดการคบหาสมาคม 
การลดนี้ไม่ได้มีของแถม 
แต่ถ้าลดได้แล้ว 
โยมจักได้กำไรนั้นทางโลกและทางธรรม
ย่อมสิ้นเชิง


ขอขอบคุณ 
ธรรมะมหัศจรรย์ 
คติธรรมคำสอน สมเด็จฯโต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เปิดพลังแห่ง ความสุข.............

การให้เกียรติสิ่งรอบตัวถือเป็นการเปิดพลังแห่งทัศนคติใหม่ และยังเสริมการมองเห็นทัศนวิสัย ให้ก้าวสู่โลกที่มีคุณค่า และนอกจากนี้ยังทำให้คุณตื่นขึ้นมาเห็นความจริงรอบตัว ที่คุณอาจจะไม่เคยเห็น และรับรู้คุณค่าของสิ่งรอบตัวเรา หรือสังคมของเรา แล้วเรียนรู้ที่จะรักในสิ่งที่ควรรัก รักในสิ่งที่ให้ความรู้สึกดีๆที่ตอบแทนมาอย่างมีคุณค่าจริงๆ มันจะช่วยฉุดดึงให้คุณหลุดออกจาก อดีตที่เจ็บช้ำหรือแม้แต่ความยึดติดใดๆก็ตาม เชื่อหรือไม่ว่าสิ่งรอบตัวบางอย่างหรือหลายๆอย่างนั้น คุณอาจไม่เคยแยแส แม้แต่ก่อนที่จะพบเรื่องเศร้าด้วยซ้ำ
คำว่า “การให้เกียรติ” คำๆนี้คือวิถีคือครรลองที่สังคมของมนุษย์ที่มีจิตใจสูงในทางโลก ย่อมที่จะพัวพันกับภาวะของการให้เกียรติอยู่กันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการให้เกียรติต่อ บุคคล ให้เกียรติต่อสัญลักษณ์ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีค่าทางจิตใจ ให้เกียรติต่อสิ่งที่ยึดถือ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีบุญคุณ ในชีวิตเราและชีวิตท่านวันนี้คุณให้เกียรติคนที่คุณ "เกลียดชัง" พวกเขาแล้วหรือยัง.......

" โลกนี้จะร่มเป็นสุข อยากให้โลกนี้ดีงาม ให้เริ่มต้นที่ ใจ ตนเองเป็นอันดับแรก "

Glitter Photos

พระเชนเรซิก อวโลกิเตศวร มหาโพธิสัตว์

พระเชนเรซิก อวโลกิเตศวร มหาโพธิสัตว์