- ข้อที่ 1.ได้แก่ อะเคธะตา คือ ความไม่ติดอยู่ในของรักของช
อบใจ หมายความว่า พระโพธิสัตว์จะเป็นผู้ที่มี ใจมุ่งไปสู่หนทางแห่งการช่ว ยเหลือสรรพสัตว์เป็นหลัก สิ่งอื่นนอกเหนือจากนี้จะไม ่มีติดอยู่ภายในใจของท่านเล ยแม้แต่น้อย
- ข้อที่ 2.ได้แก่ นิราละยะตา คือ ความไม่อาลัยเกี่ยวข้องในสิ
่งของภายนอกหมายความว่าพระโพธิสัตว์จะเป็นผู้ที่มี ใจมุ่งไปสู่ความบริสุทธิ์หล ุดพ้นจากเครื่องพันธนาการทั ้งหลายในชีวิต ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็น คน สัตว์ หรือสิ่งของ ที่ชาวโลกทั้งหลายต่างก็หลง ใหลได้ปลื้ม
- ข้อที่ 3.ได้แก่ จาโค คือ ความเสียสละ การแบ่งปันหมายความว่าพระโพ
ธิสัตว์จะเป็นผู้ที่มีความย ินดีในการเป็นผู้ให้มากกว่า ที่จะเป็นผู้รับ
- ข้อที่ 4.ได้แก่ ปะหานัง คือ ความปล่อยวาง หมายความว่าพระโพธิสัตว์จะเป็นผู้ที่สา
มารถปล่อยวางเรื่องราวต่างๆ ที่มากระทบใจได้อย่างง่ายดา ย
- ข้อที่ 5.ได้แก่ อะปุนะราวัตตินา คือ ความไม่คิดกลับกลอก หมายความว่าพระโพธิสัตว์จะเป็นผู้ที่ไม
่มีความคิดกลับกลอกไปมา เพราะโดยปกติแล้ว พระโพธิสัตว์จะเป็นผู้ที่มี สัจจะประจำใจ กล่าวคือ เป็นคนจริง ไม่หน้าไหว้หลังหลอกเหมือนบ างคนในโลกทั่วๆไป คิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น พูดอย่างไรก็ทำอย่างนั้น
- ข้อที่ 6.ได้แก่ สุขุมัตตา คือ ความละเอียดรอบคอบ หมายความว่าพระโพธิสัตว์จะเป็นผู้ที่มี
ความละเอียดรอบคอบช่างสังเก ตและเป็นผู้ที่มีปฏิภาณไหวพ ริบที่ดี ไม่ประมาทเลินเล่อ จนเป็นเหตุให้เสียการเสียงา น และเสียเวลาในการสร้างบารมี #เพราะเวลาทุกอนุวินาทีของพ ระโพธิสัตว์นั้นมีค่าเป็นอย ่างยิ่ง#
- ข้อที่ 7.ได้แก่ มะหันตัตตา คือ ความเป็นของใหญ่ หมายความว่าพระโพธิสัตว์เป็นผู้มีความค
ิดที่ยิ่งใหญ่ และมีใจที่กว้างใหญ่ไพศาลไม ่มีประมาณ ประดุจดั่งความกว้างใหญ่ของ ท้องมหาสมุทร
- ข้อที่ 8.ได้แก่ ทุรานุโพธัตตา คือ ความเป็นผู้ที่บุคคลทั่วไปจ
ะรู้ตามได้ยาก หมายความว่าท่านเป็นผู้ที่มีความคิดเหน ือกว่าวิสัยของบุคคลทั่วไปจ ะคิดได้มีความกล้าที่จะคิดแ ละกล้าที่จะทำในสิ่งที่ดีงา ม
- ข้อที่ 9.ได้แก่ ทุลละภัตตา คือ ความเป็นผู้ทำในสิ่งที่คนทั
่วไปทำได้ยาก หมายความว่าท่านมีความสามารถในการที่จะ ทำเรื่องใหญ่ๆ ยากๆ ให้เป็นเรื่องเล็กๆและง่ายๆ ได้ ซึ่งไม่ว่าเรื่องเหล่านั้นจ ะยากเย็นแสนเข็ญสักปานใดแต่ เมื่อเรื่องเหล่านั้นมาถึงม ือของพระโพธิสัตว์แล้วท่านก็สามารถที่จะทำเรื่องเ หล่านั้นให้สำเร็จได้อย่างด ีเยี่ยมในทุกๆครั้ง
- ข้อที่ 10.ได้แก่ อะสะทิสะตา คือ ความเป็นของไม่มีใครเสมอ หมายความว่า ท่านเป็นผู้ที่ไม่มีใครเสมอ
เหมือนได้ ทั้งนี้ก็เป็นเพราะท่านเป็น ผู้นำในการสร้างบารมี ที่มีความคิด คำพูด และการกระทำที่ประเสริฐเหนื อกว่าคนอื่นเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้ท่านเป็นผู้ที่มีลั กษณะของความเป็นผู้นำอยู่ตล อดเวลาซึ่งไม่ว่าท่านจะถือกำเนิดเ กิดมาเป็นอะไรก็ตามลักษณะขอ งความเป็นผู้นำนี้ก็จะติดตั วท่านมาโดยตลอด
- คุณสมบัติพิเศษสุดทั้ง 10-ประการนี้ เป็นคุณสมบัติเฉพาะที่จะเกิดขึ้นได้กับบุคคลที
่มีเป้าหมายเด็ดเดี่ยว ในมหาปนิธานเท่านั้น - สหัสภุชสหัสเนตรอวโลกิเตศวร มหาสัตว์มหาโพธิสัตว์— กับ โพธิสัตว์ แห่งศากยะ
- อาม่าเป็น"คนจริง"
- พูดจริง ทำจริง สละจริง รักจริง
- ความรัก ความผูกพัน ความเชื่อมั่น ความศรัทธา ที่เวไนยมอบให้อาม่านั้น จึงไม่ใช่เพราะ "ภาพที่อาม่าสร้าง"
- แต่เป็นเพราะ อาม่าพูดจริง ทำจริง และรักจริง
- ทุกบทบาทลีลา จึงงดงามในหัวใจของผู้ที่ได้สัมผัสอาม่าจริงๆ
- และอาม่าก็ไม่เคยหยุดนิ่งในโพธิจริยา
- จึงไม่มีใครสั่นคลอน วิถีอาม่าได้ เพราะความเป็น"คนจริง"ของอาม่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น