วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2560

บันทึกความเชื่อ ตอนที่ 1



บันทึกความเชื่อตอนที่1
  • ปฐมเหตุแห่งกายมนุษย์ และ การประลองฤทธิ์ของธาตุธรรมสามสาย ก่อนการตั้งธาตุตั้งธรรม ธาตุธรรมสามสายอยู่กันมาอย่างสันติ 
  • ต่อมาพบว่าภาคดำ(มาร) แอบทำวิชขา เพื่อปกครองภาคขาว (พระ) และภาคเทา (กลาง)
  • ดังนั้นภาคขาว ก็ต้องหาทางทำวิชชาให้ทันฝ่ายดำ พบว่าถ้าใช้กายมนุษย์จะทำวิชชาได้เร็ว แรงมาก จึงทำวิชชาด้วยกายมนุษย์ 
  • ใจมนุษย์ครั้งแรกใสสว่าง สะอาด บริสุทธิ์ ทั้งกายหยาบ กายละเอียด สวมกันสนิท มีอานุภาพมาก ไม่มีประมาณ ทำวิชชารุดหน้าเร็วมาก
  • เมื่อฝ่ายดำรู้เข้าจึงสอดละเอียดส่งสายมารทั้ง 5 ฝูง มาในกายมนุษย์ เพื่อขัดขวางเป้าหมายของฝ่ายขาวให้ล่าช้า ออกไป
  • มาร คือผู้ขวางความดี ขัดขวางหนทางของการสร้างบารมี คอยล้างผลาญทำลายความดีของมนุษย์ แล้วชักนำให้คนกระทำในสิ่งที่เป็นบาปอกุศล พอกพูนอาสวกิเลสให้หนาแน่นยิ่งขึ้น 
  • ขวางกั้นไว้ไม่ให้ทำความดีได้เต็มที่ ทำให้มนุษย์ตกอยู่ ติดอยู่ในสังสารวัฏหลุดพ้นได้ยาก 
    • 1.ขันธมาร มารคือเบญจขันธ์ ขันธ์ ๕ ได้แก่รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ได้ชื่อว่าเป็นมารร้ายทีเดียว เพราะบางครั้งก็ทำความลำบากให้กับเรา เช่น เมื่อตัวร้อนเป็นไข้ ปวดหลัง ปวดท้อง ปวดฟัน และโรคต่างๆ สารพัด แทนที่เราจะได้ใช้เวลาที่มีอยู่นี้ไปกับการสั่งสมความดีให้เต็มที่ ก็ต้องเสียเวลาไปกับการเยียวยารักษาบริหารขันธ์
    • 2.กิเลสมาร มารคือกิเลสที่ฝังติดแน่นอยู่ในใจของเรามานับภพนับชาติไม่ถ้วน อาสวกิเลสเหล่านี้ได้ชื่อว่าเป็นมาร เพราะเมื่อใจตกอยู่ในอำนาจของกิเลส คือความโลภ ความโกรธ และความหลงนี้แล้ว สิ่งใดที่ไม่เคยคิดก็เผลอคิด เรื่องอะไรที่ไม่ดีซึ่งเราไม่เคยพูด ไม่เคยทำ ก็หลงไปทำ กิเลสทำให้เกิดกรรม เมื่อเกิดกรรมก็มีวิบากมารองรับ ชีวิตจึงต้องเวียนวนอย่างไม่รู้จักจบสิ้น กิเลสเหล่านี้ผูกยึดสัตว์เอาไว้ในภพสาม ทำให้ไม่สามารถไปสู่อายตนนิพพานอันเป็นเป้าหมายสูงสุดของเราได้ 
    • 3.อภิสังขารมาร อภิสังขาร คือกรรมฝ่ายวิบากอกุศล เป็นอปุญญาภิสังขารที่ปรุงแต่งผลบาปอันเผ็ดร้อน ซึ่งเราอาจจะเคยทำกรรมไม่ดีเอาไว้ในอดีต แล้วตามมาส่งผลในภพชาติปัจจุบัน คอยเป็นมารขัดขวางเราไม่ให้ประสบความสำเร็จในชีวิตบ้าง ได้รับความไม่สบายกายไม่สบายใจบ้าง
    • 4.มัจจุมาร มารคือความตาย การมีชีวิตที่ยืนยาวและได้สร้างบารมีนั้น นับว่าเป็นผู้มีบุญลาภอันประเสริฐทีเดียว แต่ถ้าเกิดมาไม่กี่ปีก็ถูกพญามัจจุราชพรากเอาชีวิตไป ต้องละจากโลกนี้ไปเสียแล้ว ทำให้ต้องสูญเสียโอกาสที่จะทำความดีอย่างอื่นอีกมากมายฉะนั้น การที่ความตายมาคร่าชีวิตเราไปก่อนที่จะสร้างบารมีได้เต็มเปี่ยม ยังไม่ทันทำกิเลสอาสวะให้เบาบางเลย ก็ต้องตายเสียก่อนแล้ว ตรงนี้แหละท่านเรียกว่าเป็นมาร
    • 5.เทวปุตตมาร ท่านหมายเอาตั้งแต่บุคคลที่อยู่ใกล้ตัว ที่คอยขัดขวางไม่ให้เราทำความดี บางครั้งอาจเป็นสามี ภรรยาของเราเอง หรือเพื่อนฝูงเรา ที่มาขัดขวางการให้ทาน ไม่อยากให้รักษาศีล หรือขณะนั่งสมาธิ(Meditation)ก็มารบกวนทำเสียงดัง ทำให้ไม่มีสมาธิในการนั่งธรรมะต่อไป หรือบางครั้งเราอาจจะเป็นเทพบุตรมารต่อคนอื่นก็มี คือเราเผลอไปรบกวนหรือขัดขวางคนกำลังปฏิบัติเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เปิดพลังแห่ง ความสุข.............

การให้เกียรติสิ่งรอบตัวถือเป็นการเปิดพลังแห่งทัศนคติใหม่ และยังเสริมการมองเห็นทัศนวิสัย ให้ก้าวสู่โลกที่มีคุณค่า และนอกจากนี้ยังทำให้คุณตื่นขึ้นมาเห็นความจริงรอบตัว ที่คุณอาจจะไม่เคยเห็น และรับรู้คุณค่าของสิ่งรอบตัวเรา หรือสังคมของเรา แล้วเรียนรู้ที่จะรักในสิ่งที่ควรรัก รักในสิ่งที่ให้ความรู้สึกดีๆที่ตอบแทนมาอย่างมีคุณค่าจริงๆ มันจะช่วยฉุดดึงให้คุณหลุดออกจาก อดีตที่เจ็บช้ำหรือแม้แต่ความยึดติดใดๆก็ตาม เชื่อหรือไม่ว่าสิ่งรอบตัวบางอย่างหรือหลายๆอย่างนั้น คุณอาจไม่เคยแยแส แม้แต่ก่อนที่จะพบเรื่องเศร้าด้วยซ้ำ
คำว่า “การให้เกียรติ” คำๆนี้คือวิถีคือครรลองที่สังคมของมนุษย์ที่มีจิตใจสูงในทางโลก ย่อมที่จะพัวพันกับภาวะของการให้เกียรติอยู่กันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการให้เกียรติต่อ บุคคล ให้เกียรติต่อสัญลักษณ์ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีค่าทางจิตใจ ให้เกียรติต่อสิ่งที่ยึดถือ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีบุญคุณ ในชีวิตเราและชีวิตท่านวันนี้คุณให้เกียรติคนที่คุณ "เกลียดชัง" พวกเขาแล้วหรือยัง.......

" โลกนี้จะร่มเป็นสุข อยากให้โลกนี้ดีงาม ให้เริ่มต้นที่ ใจ ตนเองเป็นอันดับแรก "

Glitter Photos

พระเชนเรซิก อวโลกิเตศวร มหาโพธิสัตว์

พระเชนเรซิก อวโลกิเตศวร มหาโพธิสัตว์