วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2560

กาลจักร-2 (The weel of life)



  • วันนี้ อาม่าจะเริ่มอธิบายภาพ"กาลจักร"หรือภาวจักร (The weel of life) เริ่มต้นจากบนสุดก่อน
  • 31ภพภูมินี้ อยู่ในอุ้งหัตถ์พญามาร ครอบคลุมไว้หมด(พระพุทธองค์ทรงชี้ไปที่บนสุดของพญามาร และชี้ไปที่ธรรมจักร)
  • โดยมีลูกๆมารอยู่บนศีรษะ อยู่5องค์เป็นผู้ถูกส่งมาทำงาน จำแนกได้เป็น
    • 1.กิเลสมาร แทรกซึมอยู่ในทุกรูปนาม คือการยึดติด ความหลงผิด ความอยากได้ อยากมี อยากเป็น ที่นำมาซึ่งความทุกข์
    • 2.ขันธมาร คือร่างกายที่เป็นอุปสรรคต่อการปฎิบัติธรรมเช่น การเจ็บป่วย เมื่อยล้า หรือการต้องล้มเลิกการปฎิบัติธรรม เพราะเจ็บไข้ได้ป่วยต่างๆนาๆ
    • 3.อภิสังขารมาร มารตนนี้จะแทรกซึมอยู่ในความนึกคิด จินตนาการ ความฟุ้งซ่าน ลังเล สงสัย ไม่เด็ดเดี่ยว เอามั่ง ไม่เอามั่ง ขัดขวางการปฎิบัติ และก่อเกิดภพชาติ
    • 4.เทวปุตตมาร มารที่มาลักษณะสวยงาม เช่น ผู้ครองศีลเจอหญิงงาม หรือ ชายงาม จนภูมิธรรมถอยหลัง หรือจะเข้าคอร์สปฏิบัติธรรม อยู่ๆมีคนซื้อตั๋วทัวร์ทริปญี่ปุ่นให้ตรงกัน ก็เบี่ยงเบน จิตที่เคยตั้งมั่นไว้
    • 5.มัจจุราชมาร มารชนิดนี้ จะตัดรอนด้วยความตาย ปิดหนทางความสำเร็จในการพ้นทุกข์ เช่น อุบัติเหตุระหว่างกำลังเดินทางไปพบครูบาอาจารย์ หรือปฏิบัติธรรม รวมแม้การตายของบุคคลอันเป็นที่รัก ทำให้ต้องล้มเลิกความตั้งใจเดิมกลางคัน
  • จริงๆ มารคือเทพชั้นสูง อยู่สวรรค์ชั้นสูงสุด มีอิทธิฤทธิ์มากที่สุดในสังสารวัฎ เล่นงานได้หมด ทั้งมนุษย์ เทพ พรหม ครอบงำดลจิตดลใจได้หมด
  • มารเป็นสรรพชีวิตเดียว ที่สามารถไปไหนก็ได้หมดทุกภพภูมิ
  • เทพหรือพรหมนั้น ยังไปภพภูมิที่สูงกว่าตนไม่ได้ แต่มารไปได้หมด ครอบงำได้หมด
  • มารเล่นได้ทั้งเล่นงานจากภายในคือจิตและเล่นงานได้ทั้งจากภายนอก สร้างหายนะได้จากหลากหลายรูปแบบ พายุ กองเพลิง แปลงกายมาล่อลวง ให้ลุ่มหลง ให้รัก ให้หวาดกลัว หรือแทรกจิตคนมาด่า มารบ มาฆ่า
  • แทรกซึมได้ทุกรูปนาม มาทำลายผู้ปฎิบัติธรรมได้หลายหลายวิธีชนิดที่เราไม่รู้ตัวเลย
  • ****ยกเว้นพระอรหันต์ ซึ่งมีสติสูงสุด*****
  • แต่ถึงกระนั้น พระอรหันต์ก็ยังถูกเล่นงานได้จากมนุษย์ หรือสิ่งมีชีวิตที่ถูกมารครอบงำใช้เป็นเครื่องมือมาทำอันตรายท่าน เช่นดลใจมนุษย์เอาก้อนหินขว้าง หรือด่าประจาน ให้เสียหาย ฯลฯ
  • พญามารนั้น สนใจผู้ต้องการหลุดพ้นเป็นพิเศษ
  • อยากไปสวรรค์พรหมโลก มารยังไม่ค่อยสนใจ
  • เพราะยังอยู่ใต้อำนาจมารและสังสารวัฎอยู่
  • ไม่มีใครพ้นทุกข์ได้โดยไม่เจอมาร
  • และที่มารชอบเป็นพิเศษ🌹🌹🌹
  • คือเอาวิชาจำพวกอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหารย์ยัดใส่ ระหว่างปฎิบัติ เจอแสงสีเสียง สร้างนิมิต ความเป็น อยู่ ขึ้นมา
  • ในที่สุดผู้ปฎิบัติธรรมก็จะเพลิดเพลิน เรียนรู้ และจะกลายเป็นมารเองในที่สุด555555+

#พระเชนเรซิก#


ตามความเชื่อ
สวรรค์ชั้นที่ ๖ อันเป็นชั้นสูงสุดในบรรดาสวรรค์ 
ชื่อ ปรนิมมิตสวัตตี

มีวิมานทองทอง วิมานแก้ว วิมานเงิน เป็นปราสาทที่สง่าภูมิฐาน 
ตระหง่านอยู่ทั่วไปบนภาคพื้นที่ลาดด้วยแก้ว ๗ ประการ 
ประกอบด้วยสวนทิพย์อุทยานอันวิจิตร 
และสระโบกขรณีที่พักผ่อนหย่อนใจ 
อันยิ่งใหญ่โอฬาริกยิ่งกว่าชั้นใดทั้งหมด 

เทพเจ้าที่อยู่บนสวรรค์ชั้นที่ ๖ นี้ 
มีคุณสมบัติพิเศษยิ่งกว่าเทพเจ้าบนสวรรค์ชั้นอื่น ๆ 
คือเสวยกามคุณอารมณ์ 
โดยเทวดาอื่นรู้ความต้องการแล้วเนรมิตให้ 
กล่าวคือ 
เมื่อเกิดความต้องการ 
ไม่จำเป็นต้องบันดาลให้เป็นไปด้วยตนเอง 
จะมีเทวดาองค์อื่นรู้และเนรมิตให้โดยทันที
และเป็นสุขสมบัติที่ประเสริฐประณีต 
น่าประทับใจกว่าเทวดาชั้นอื่นใด 
จึงมีนามว่าสวรรค์ชั้น ปรนิมมิตสวัตตี 

นอกจากสมบัติทิพย์และคุณสมบัติพิเศษต่าง ๆ 
ที่เทพเจ้าเหล่าชาวฟ้าอยู่ในชั้นที่ ๖ นี้ได้รับแล้ว 
ผู้ที่อยู่บนสวรรค์ชั้นนี้ยังแบ่งออกเป็น ๒ ฝ่ายด้วยกันคือ 

ฝ่ายเทวดา 
มีเทวาธิราชผู้ยิ่งใหญ่ นามว่า 
"ท้าวปรนิมมิตเทวราช" 
เป็นผู้ปกครองเหล่าเทพเจ้าทั้งหลาย 
ให้ได้รับความรื่นเริงสำราญโดยทั่วหน้า 

ฝ่ายมาร 
บนสวรรค์ชั้นนี้ มีหมู่มารผู้บุญหนักศักดิ์ใหญ่ 
บังเกิดเสวยทิพยสมบัติอยู่ด้วยอีกฝ่ายหนึ่ง โดยมี 
"ท้าวปรนิมมิตสวัตตีมาราธิราช "
เป็นผู้ปกครองหมู่มารทั้งหลายให้ได้รับความสุขสำราญ 
ตามควรต่บุญกรรมของตน





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เปิดพลังแห่ง ความสุข.............

การให้เกียรติสิ่งรอบตัวถือเป็นการเปิดพลังแห่งทัศนคติใหม่ และยังเสริมการมองเห็นทัศนวิสัย ให้ก้าวสู่โลกที่มีคุณค่า และนอกจากนี้ยังทำให้คุณตื่นขึ้นมาเห็นความจริงรอบตัว ที่คุณอาจจะไม่เคยเห็น และรับรู้คุณค่าของสิ่งรอบตัวเรา หรือสังคมของเรา แล้วเรียนรู้ที่จะรักในสิ่งที่ควรรัก รักในสิ่งที่ให้ความรู้สึกดีๆที่ตอบแทนมาอย่างมีคุณค่าจริงๆ มันจะช่วยฉุดดึงให้คุณหลุดออกจาก อดีตที่เจ็บช้ำหรือแม้แต่ความยึดติดใดๆก็ตาม เชื่อหรือไม่ว่าสิ่งรอบตัวบางอย่างหรือหลายๆอย่างนั้น คุณอาจไม่เคยแยแส แม้แต่ก่อนที่จะพบเรื่องเศร้าด้วยซ้ำ
คำว่า “การให้เกียรติ” คำๆนี้คือวิถีคือครรลองที่สังคมของมนุษย์ที่มีจิตใจสูงในทางโลก ย่อมที่จะพัวพันกับภาวะของการให้เกียรติอยู่กันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการให้เกียรติต่อ บุคคล ให้เกียรติต่อสัญลักษณ์ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีค่าทางจิตใจ ให้เกียรติต่อสิ่งที่ยึดถือ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีบุญคุณ ในชีวิตเราและชีวิตท่านวันนี้คุณให้เกียรติคนที่คุณ "เกลียดชัง" พวกเขาแล้วหรือยัง.......

" โลกนี้จะร่มเป็นสุข อยากให้โลกนี้ดีงาม ให้เริ่มต้นที่ ใจ ตนเองเป็นอันดับแรก "

Glitter Photos

พระเชนเรซิก อวโลกิเตศวร มหาโพธิสัตว์

พระเชนเรซิก อวโลกิเตศวร มหาโพธิสัตว์