วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

"จงใช้มัน"

ในภาพอาจจะมี 6 คน

เป็นครูบาอาจารย์ 
ต้องมาปลดปล่อย มิใช่เหนี่ยวรั้ง
พระพุทธเจ้าตรัสว่า แต่ละวิธีเหมือนแพ
"จงใช้มัน"
เมื่อถึงฝั่งแล้วทิ้งมันไว้ที่นั่น
แต่สิ่งที่เกิดขึ้น นักปฎิบัตินับล้าน
กลับยึดติดวิธีการและเสพติด ความสวยงามของมัน

แน่นอน...วิถีทางเปรียบเหมือนสะพาน
และนักปฎิบัติต่างใช้ชีวิตบนสะพาน
ไม่ได้อยู่ทั้งฝั่งนี้และฝั่งโน้น ไม่ได้อยู่โลกนี้และโลกอื่น
ค้างเติ่งบนสะพานนั้น
นั้นแหละ...คือนรกที่แท้จริง 
ชีวิตที่ถูกฉีกและแบ่งแยก
คนเป็นอาจารย์ต้องบอกลูกศิษย์
วันหนึ่งต้องทิ้งวิธีการที่ช่วยเหลือพวกเจ้ามาตลอด

อย่าแบกมัน แม้ชั่วขณะเดียว 
เมื่อความป่วยไข้หายไปแล้ว จงเลิกกินยา 
ถ้ายังใช้ยา ก็จะป่วยซ้ำ

หนทางก็คือหนทาง ไม่ใช่ปลายทาง 
และจะถึงปลายทางก็ต้องทิ้งหนทาง

นี่...เป็นวิธีเดียวที่จะเข้าสู่"ปรมัตถ์" 
ผู้ปฎิบัติสมาธิภาวนาต้องลืมรูปแบบสมาธิภาวนา
ใช่
วันหนึ่งนักปฎิบัติจะละทิ้งสมาธิภาวนา
เพราะตนเองได้กลายเป็นสมาธิภาวนาเองเสียแล้ว

สมาธิภาวนา จะไม่เป็นกิจกรรมที่แยกจากตัวเองอีก 
หากหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว
ไม่มีตรรกะ....ไม่มีเหตุผล
ไม่ต่อต้าน ไม่ตัดสิน ไม่ยึดติด


การทำให้ศิษย์เป็นอิสระจากกายใจตนเอง 
และแม้จากธรรมทั้งปวง
(ทั้งภายในภายนอก)
เป็นความมหัศจรรย์ 
ของคนเป็นครูผู้รู้ทางด้านจิตวิญญาณที่แท้จริง

ชีวิตที่มีตนเองเป็นศูนย์กลาง 
เป็นชีวิตที่มีกรรม
ชีวิตชาวพุทธไม่ควรมีกรรม 

เพราะคำสอนของพระพุทธองค์
คือตัดตัว "กายและจิต" 
ที่หมุนเวียนตามกรรมออกไป

ถ้า..เธอยังมีตัวตน
พยายามที่จะบรรลุธรรมแล้วละก็

เธอกำลังสร้างกรรมและถูกกรรมบังคับ 
เธอกำลังเสียเวลา

เพราะเบาะรองนั่งของเธอคือ
"ส่วนหนึ่งของกรรม"



ทุกขณะของอาม่าคือสมาธิภาวนา
อาม่าได้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว

สาธุ





ลึกซึ้ง 
ไม่มีตรรกะ ไม่มีเหตุ ไม่ต่อต้าน ไม่ตัดสิน ไม่ยึดติด 
การทำให้ศิษย์เป็นอิสระจากกายใจ ตนเอง
และแม้จากธรรมทั้งปวง
(ทั้งภายในภายนอก) 
เป็นความมหัศจรรย์ 
ของคนเป็นครูผู้รู้ทางด้านจิตวิญญานที่แท้จริง 
ชัดเจนมาก

กราบสาธุ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เปิดพลังแห่ง ความสุข.............

การให้เกียรติสิ่งรอบตัวถือเป็นการเปิดพลังแห่งทัศนคติใหม่ และยังเสริมการมองเห็นทัศนวิสัย ให้ก้าวสู่โลกที่มีคุณค่า และนอกจากนี้ยังทำให้คุณตื่นขึ้นมาเห็นความจริงรอบตัว ที่คุณอาจจะไม่เคยเห็น และรับรู้คุณค่าของสิ่งรอบตัวเรา หรือสังคมของเรา แล้วเรียนรู้ที่จะรักในสิ่งที่ควรรัก รักในสิ่งที่ให้ความรู้สึกดีๆที่ตอบแทนมาอย่างมีคุณค่าจริงๆ มันจะช่วยฉุดดึงให้คุณหลุดออกจาก อดีตที่เจ็บช้ำหรือแม้แต่ความยึดติดใดๆก็ตาม เชื่อหรือไม่ว่าสิ่งรอบตัวบางอย่างหรือหลายๆอย่างนั้น คุณอาจไม่เคยแยแส แม้แต่ก่อนที่จะพบเรื่องเศร้าด้วยซ้ำ
คำว่า “การให้เกียรติ” คำๆนี้คือวิถีคือครรลองที่สังคมของมนุษย์ที่มีจิตใจสูงในทางโลก ย่อมที่จะพัวพันกับภาวะของการให้เกียรติอยู่กันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการให้เกียรติต่อ บุคคล ให้เกียรติต่อสัญลักษณ์ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีค่าทางจิตใจ ให้เกียรติต่อสิ่งที่ยึดถือ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีบุญคุณ ในชีวิตเราและชีวิตท่านวันนี้คุณให้เกียรติคนที่คุณ "เกลียดชัง" พวกเขาแล้วหรือยัง.......

" โลกนี้จะร่มเป็นสุข อยากให้โลกนี้ดีงาม ให้เริ่มต้นที่ ใจ ตนเองเป็นอันดับแรก "

Glitter Photos

พระเชนเรซิก อวโลกิเตศวร มหาโพธิสัตว์

พระเชนเรซิก อวโลกิเตศวร มหาโพธิสัตว์