กิเลสยิ่งหนา ปัญญายิ่งทึบ
จิตสำนึกตกต่ำ ยิ่งสร้างกรรมมาก
วิบากกรรมก็ยิ่งมาก
ปลงก็แล้ว อโหสิก็แล้ว ถอดถอนก็แล้ว
ทำบุญให้ก็แล้ว หยาดน้ำให้ก็แล้ว แผ่เมตตาให้ก็แล้ว
บวชให้ก็แล้ว
ทำไมวิบากยังรุ่มเร้า ยังไม่ได้ผล ยังเสวยวิบาก
สิ่งที่อัดแน่นอยู่ภายในในทุกอนุเซลส์ธาตุ
คืออนุภาคทางพลังงานอันดำมืด
ครอบงำเจ้าดวงชะตาให้ได้เสวยชดใช้
ถึงแม้รู้ธรรมแห่งความว่าง
วิบากไม่ได้ว่างไปพร้อมกับเจ้านาย
ตราบใดที่สังขารยังอยู่ร่างกาย
สภาพจิตใจยังได้รับความเจ็บปวดทุกข์ทรมาน
วิบากกรรมก็คือพลังงานที่สะสมทับถม
ซ้อนๆ อัดแน่นฝั่งลึกในจิตใต้สำนึก
สิ่งที่บันทึกการกระทำสัญญากรรมทั้งหมด
พลังงานมวลน้ำหนักมาก รอบแรงเหวี่ยงเฉื่อย
พร้อมที่จะดึงกระซากจิตวิญญาณจิตใจ
ให้ตกต่ำลงสู่ภูมิภพเบื้องล่าง
การคลายพลังงานคลายวิบาก
คุณสมบัติพื้นฐานความเป็นมนุษย์
มโนธรรมจิตสำนึกต้องมี
ความมีศีลมีธรรมคือหัวใจ
สร้างพลังงานสร้างจิตสำนึกใหม่
ค่อยๆ คลายค่อยๆ ไล่พลังงานเก่า
ที่คั่งค้างภายในออกทิ้งๆ ไปเรื่อยๆ
วิบากจะได้บางเบาลง จากกรรมหนักๆก็เบาขึ้น
สติ ตื่นรู้ รู้ตื่น รู้ตน รู้ตัว
เจริญสติให้เท่าทันอกุศลเบื้องล่าง
เจริญปัญญาเป็นที่ตั้ง
พฤติกรรมเปลี่ยน
การกระทำเปลี่ยน
พลังงานภายในเริ่มเปลี่ยน
เจ้าดวงชะตาพลิกเปลี่ยน
บางอย่างอาจใช้เวลา
บางอย่างคลายได้ทันทีในระดับความรู้สึกทางใจ
คลายสบายใจโล่งได้เพียงชั่วขณะเท่านั้น
แต่สิ่งที่ฝั่งลึกข้างใน
การน้อมนำพลังพุทธานุภาพ
พลังงานสั่นสะเทือนภายในชำระล้าง
ลบล้างหนี้กรรมทั้งหมดไปพร้อมๆ กันจนครบองค์
ไม่ว่าจะทำอะไรทุกอย่างอยู่ที่ความสม่ำเสมอ
ความต่อเนื่อง ทำๆ หยุดๆ หายๆ มันจึงไม่ได้ผล
ใจคนบางทีมันก็พองโตบางทีมันก็หดๆ หายๆ
พึงรักษาความสมดุลย์ทางใจให้
เกิดเสถียรภาพสม่ำเสมอในระดับกลางๆ
ไม่คาดหวังจนเกินไป ทั้งไม่ยึดติด
และยึดมั่นถือถือมั่นในสิ่งใด
การสลัดทิ้งอะไรได้ง่าย
การคลายจะยิ่งคลายได้ไว
แต่อย่าคาดหวังให้ได้ดั่งใจ
ในทันทีทันใดไปเลยเสียทีเดียว
บางอย่างยังต้องจ่าย
เมื่อเจ้าหนี้ เจ้ากรรมนายเวรทวงถาม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น