วันเสาร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2560

เพราะไม่ยึดมั่น ตถาคตจึง"หลุดพ้น

ในภาพอาจจะมี 1 คน

ตถาคตย่อมรู้เหตุนั้นชัด
ทั้งรู้ชัดยิ่งกว่านั้น

ทั้งไม่ยึดมั่น"ความรู้ชัดนั้นด้วย"
เมื่อไม่ยึดมั่น ก็.......
ทราบความเกิดขึ้น ความดับไป คุณและโทษ

ทราบอุบายและเครื่องออกจากเวทนานั้นตามความเป็นจริง
ทราบความดับได้เฉพาะตน
...เพราะไม่ยึดมั่น ตถาคตจึง"หลุดพ้น"
จาก..พรหมชาลสูตร สุตตันต.เล่ม1 ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค
แต่มนุษย์ในโลกนี้ รู้....เพื่อยึด!!!!
ถ้าทิ้ง ตัวรู้ไม่ได้ ก็สิ้นทุกข์ไม่ได้

ในภาพอาจจะมี 1 คน
  • "คลาย" ในความหมายของ หลวงพ่อโพธิ์ศรี สุริยะ เขมรโต นั้นก็คือ คลายจาก "ตัวรู้"ของจิต นั่นเอง!
  • ใจ...ไม่อะไรกับอะไร" นั่นแหละ ที่จะทำให้คลายจาก "ตัวรู้"เพราะเป็นการตัดวงจรของสิ่งปรุงแต่ง, จะว่าไปสิ่งปรุงแต่งมันก็คือสมมุติบัญญัติ ที่อุปโลกน์มาใช้,
  •  ...จิต...หลงไปจริงไปจังกับมันเอง การจะหลุดออกมา ก็คือ "ไม่อะไรกับอะไร" ซะเอง...หลวงพ่อฯ ท่านจึงให้ตัด ตั้งแต่ "ต้นทาง"คือ ตัดที่ต้นเหตุตรงๆ!
  • พอ...เริ่มคลายจาก "ตัวรู้"แล้ว การที่จิตผู้รู้จะทะยานเข้าไปรู้ เข้าไปปรุงแต่ง จดจำ นั่นนี่! ตามเจตนากรรมที่หลงไปกับสมมุติบัญญัติก็จะลดลง สังขารขันธ์ก็สั้นลงเอง เหลือเพียงแต่ "รู้" ขึ้นเมื่อมีเหตุปัจจัยตามความจำเป็นของธาตุของขันธ์!
  • พอ..."ตัวรู้"...คลายจาก "เจตนากรรม" มันก็จะไม่ยึดติดกับสภาพอนิจจังใดๆ อัตตาก็หายไปเอง! จนไร้ตัวไร้ตน เมื่อไร้ตัวไร้ตนแล้ว การกระทบจากสิ่งต่างๆก็ไม่มี เพราะไม่มีตัวให้กระทบอีกต่อไป...!
  • พี่ดาขอน้อม ขออโหสิกรรม ต่อ ทุกรูป ทุกนาม ด้วยนะค่ะ อโหสิๆๆโสสสสส
ในภาพอาจจะมี 2 คน, คนที่ยิ้ม


  • อาตมาเป็นผู้ปฏิบัติตามหลักพุทธศาสนา
  • อาตมามีศรัทธาและความเคารพ
  • ในคำสอนของพระพุทธเจ้า
  • แต่ถ้าหาก
  • อาตมาเอาความรักที่มีต่อพุทธศาสนา
  • มาปะปนกับการยึดมั่นถือมั่น
  • จิตของอาตมาจะเกิด
  • อคติ ในการนับถือพุทธศาสนา
  • จิตที่มีอคติ
  • ที่ไม่อาจมองเห็นภาพทั้งภาพ
  • ไม่อาจเข้าถึงความจริงได้
  • การกระทำใด
  • ที่เกิดจากจิตที่มีอคติ
  • ไม่อาจเป็นหนึ่งเดียวกับความจริงได้

-- องค์ดาไล ลามะ --
เทศน์ - ลาดัค รัฐจามูและแคชเมีย อินเดีย 2016
-------------------------------
A Biased Mind Cannot Grasp Reality
I am a Buddhist practitioner and have a lot of faith and respect in the teachings of the Buddha. However, if I mix up my love for and attachment to Buddhism, then my mind shall be biased towards it. A biased mind, which never sees the complete picture, cannot grasp the reality. And any action that results from such a state of mind will not be in tune with reality. As such it causes a lot of problems.
H.H. Dalai Lama
Leh, Ladakh, J&K, India on July 27, 2016. (Photo by Tenzin Choejor/OHHDL)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เปิดพลังแห่ง ความสุข.............

การให้เกียรติสิ่งรอบตัวถือเป็นการเปิดพลังแห่งทัศนคติใหม่ และยังเสริมการมองเห็นทัศนวิสัย ให้ก้าวสู่โลกที่มีคุณค่า และนอกจากนี้ยังทำให้คุณตื่นขึ้นมาเห็นความจริงรอบตัว ที่คุณอาจจะไม่เคยเห็น และรับรู้คุณค่าของสิ่งรอบตัวเรา หรือสังคมของเรา แล้วเรียนรู้ที่จะรักในสิ่งที่ควรรัก รักในสิ่งที่ให้ความรู้สึกดีๆที่ตอบแทนมาอย่างมีคุณค่าจริงๆ มันจะช่วยฉุดดึงให้คุณหลุดออกจาก อดีตที่เจ็บช้ำหรือแม้แต่ความยึดติดใดๆก็ตาม เชื่อหรือไม่ว่าสิ่งรอบตัวบางอย่างหรือหลายๆอย่างนั้น คุณอาจไม่เคยแยแส แม้แต่ก่อนที่จะพบเรื่องเศร้าด้วยซ้ำ
คำว่า “การให้เกียรติ” คำๆนี้คือวิถีคือครรลองที่สังคมของมนุษย์ที่มีจิตใจสูงในทางโลก ย่อมที่จะพัวพันกับภาวะของการให้เกียรติอยู่กันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการให้เกียรติต่อ บุคคล ให้เกียรติต่อสัญลักษณ์ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีค่าทางจิตใจ ให้เกียรติต่อสิ่งที่ยึดถือ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีบุญคุณ ในชีวิตเราและชีวิตท่านวันนี้คุณให้เกียรติคนที่คุณ "เกลียดชัง" พวกเขาแล้วหรือยัง.......

" โลกนี้จะร่มเป็นสุข อยากให้โลกนี้ดีงาม ให้เริ่มต้นที่ ใจ ตนเองเป็นอันดับแรก "

Glitter Photos

พระเชนเรซิก อวโลกิเตศวร มหาโพธิสัตว์

พระเชนเรซิก อวโลกิเตศวร มหาโพธิสัตว์