วันจันทร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2560

อะไรหรือ จึงเรียกว่า "โพธิ" คำตอบคือ"ธรรมอันไม่แบ่งแยก"

ในภาพอาจจะมี 1 คน

ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังยิ้ม, กำลังยืน


  • อะไรหรือ จึงเรียกว่า "โพธิ"
  • คำตอบคือ"ธรรมอันไม่แบ่งแยก"
  • และอะไรหรือ คือโพธิจริยา
  • คำตอบคือพยับแดดและเสียงสะท้อนนั้นแหละ คือโพธิจริยา
  • และด้วยธรรมทั้งปวงมีความ"เสมอภาค"
  • ธรรมธาตุทั้งปวงจึงมิได้
  • มีอัตตา 
  • มีอุเบกขา 
  • มีความสำเร็จหรือมีความผุพังแต่อย่างใด
  • มายาธรรมทั้งปวงจึงเปรียบแค่พยับแดดและเสียงสะท้อนที่หาค่าและแก่นสารไม่ได้
  • แต่ถึงที่สุด ก็ต้องมองความมายาและความศูนย์กลับมาเป็นรูป(สรรพสัตว์)เพื่อเมตตาต่อกัน
  • ดังนั้นจึงมิใช่สละ...แต่ความสุข
  • แม้ความทุกข์ เจ้าก็ต้องสละด้วย
  • เป็นพระโพธิสัตว์ต้องข้ามผ่านทั้งสุขและทุกข์
  • เห็นรูปเป็นความศูนย์คือ"มหาสติ"
  • แต่เมื่อใดที่เจ้าเห็นความศูนย์เป็นรูป
  • เจ้าจะพบกับ"มหากรุณา"
  • เจ้ามาเพื่อปลอบประโลมสรรพสัตว์
  • หากมีทุกข์จนสรรพสัตว์ต้องให้กำลังใจปลอบประโลมเจ้า
  • แล้วสรรพสัตว์จะมีใครเป็น"ที่พึ่ง"
  • ดังนั้น...ทุกข์ของเจ้า ย่อม"ไม่มี"
  • เจ้าต้องมีมหาปนิธานว่า....
  • จะไม่ปรารถนาการปลอบประโลมจากผู้อื่น
  • หากแต่เจ้าจะเป็นผู้ปลอบประโลมผู้อื่นเสียเอง
  • จะไม่ปรารถนาความเข้าใจจากผู้อื่น
  • หากแต่เจ้าจะเข้าใจผู้อื่นเสียเอง
  • จะไม่ปรารถนาความรักจากผู้อื่น
  • หากแต่เจ้าจะเป็นผู้ให้ความรักแก่ผู้อื่นเสียเอง
  • เจ้าจะไม่เกิดไม่ตาย ไม่มาไม่ไป ด้วยเจ้าย่อมเป็นอมตะเพราะสภาวะอันเป็นนิรันดร์แห่งมหาปนิธานของเรา
-----------------------------------------------------
  • #โอวาทธรรม จากพระมารดาผู้สดับฟังเสียงของโลก#
ในภาพอาจจะมี 1 คน, ข้อความ
ธรรมอันไม่แบ่งแยก คือ"โพธิ"

# # # # ไม่เคยมีอะไรบนโลกนี้ # # # #
* โลกนี้ไม่เคยมีอะไรตั้งแต่แรก *
* เหมือน ดิน หิน คน สัตว์ ที่อันตรธานหายไปจากโลก *
* เผยให้เห็นสภาวะของการไม่เคยมีอะไร *
* วนเวียนอยู่เช่นนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า *
* เสมือนภาพลวงตา (มายา) มาแล้วก็ไป *
* ตามวาระของมัน (อนิจจัง) *
* ไม่เคยมีใครบีบบังคับได้ (ทุกขัง) *
* นี่คือ ความทุกข์ของโลก *

* เพราะ * 
"โลกนี้ไม่เคยมีอะไรให้ใคร" 
(อนัตตา) *

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เปิดพลังแห่ง ความสุข.............

การให้เกียรติสิ่งรอบตัวถือเป็นการเปิดพลังแห่งทัศนคติใหม่ และยังเสริมการมองเห็นทัศนวิสัย ให้ก้าวสู่โลกที่มีคุณค่า และนอกจากนี้ยังทำให้คุณตื่นขึ้นมาเห็นความจริงรอบตัว ที่คุณอาจจะไม่เคยเห็น และรับรู้คุณค่าของสิ่งรอบตัวเรา หรือสังคมของเรา แล้วเรียนรู้ที่จะรักในสิ่งที่ควรรัก รักในสิ่งที่ให้ความรู้สึกดีๆที่ตอบแทนมาอย่างมีคุณค่าจริงๆ มันจะช่วยฉุดดึงให้คุณหลุดออกจาก อดีตที่เจ็บช้ำหรือแม้แต่ความยึดติดใดๆก็ตาม เชื่อหรือไม่ว่าสิ่งรอบตัวบางอย่างหรือหลายๆอย่างนั้น คุณอาจไม่เคยแยแส แม้แต่ก่อนที่จะพบเรื่องเศร้าด้วยซ้ำ
คำว่า “การให้เกียรติ” คำๆนี้คือวิถีคือครรลองที่สังคมของมนุษย์ที่มีจิตใจสูงในทางโลก ย่อมที่จะพัวพันกับภาวะของการให้เกียรติอยู่กันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการให้เกียรติต่อ บุคคล ให้เกียรติต่อสัญลักษณ์ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีค่าทางจิตใจ ให้เกียรติต่อสิ่งที่ยึดถือ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีบุญคุณ ในชีวิตเราและชีวิตท่านวันนี้คุณให้เกียรติคนที่คุณ "เกลียดชัง" พวกเขาแล้วหรือยัง.......

" โลกนี้จะร่มเป็นสุข อยากให้โลกนี้ดีงาม ให้เริ่มต้นที่ ใจ ตนเองเป็นอันดับแรก "

Glitter Photos

พระเชนเรซิก อวโลกิเตศวร มหาโพธิสัตว์

พระเชนเรซิก อวโลกิเตศวร มหาโพธิสัตว์