- อะไรหรือ จึงเรียกว่า "โพธิ"
- คำตอบคือ"ธรรมอันไม่แบ่งแยก"
- และอะไรหรือ คือโพธิจริยา
- คำตอบคือพยับแดดและเสียงสะท้อนนั้นแหละ คือโพธิจริยา
- และด้วยธรรมทั้งปวงมีความ"เสมอภาค"
- ธรรมธาตุทั้งปวงจึงมิได้
- มีอัตตา
- มีอุเบกขา
- มีความสำเร็จหรือมีความผุพังแต่อย่างใด
- มายาธรรมทั้งปวงจึงเปรียบแค่พยับแดดและเสียงสะท้อนที่หาค่าและแก่นสารไม่ได้
- แต่ถึงที่สุด ก็ต้องมองความมายาและความศูนย์กลับมาเป็นรูป(สรรพสัตว์)เพื่อเมตตาต่อกัน
- ดังนั้นจึงมิใช่สละ...แต่ความสุข
- แม้ความทุกข์ เจ้าก็ต้องสละด้วย
- เป็นพระโพธิสัตว์ต้องข้ามผ่านทั้งสุขและทุกข์
- เห็นรูปเป็นความศูนย์คือ"มหาสติ"
- แต่เมื่อใดที่เจ้าเห็นความศูนย์เป็นรูป
- เจ้าจะพบกับ"มหากรุณา"
- เจ้ามาเพื่อปลอบประโลมสรรพสัตว์
- หากมีทุกข์จนสรรพสัตว์ต้องให้กำลังใจปลอบประโลมเจ้า
- แล้วสรรพสัตว์จะมีใครเป็น"ที่พึ่ง"
- ดังนั้น...ทุกข์ของเจ้า ย่อม"ไม่มี"
- เจ้าต้องมีมหาปนิธานว่า....
- จะไม่ปรารถนาการปลอบประโลมจากผู้อื่น
- หากแต่เจ้าจะเป็นผู้ปลอบประโลมผู้อื่นเสียเอง
- จะไม่ปรารถนาความเข้าใจจากผู้อื่น
- หากแต่เจ้าจะเข้าใจผู้อื่นเสียเอง
- จะไม่ปรารถนาความรักจากผู้อื่น
- หากแต่เจ้าจะเป็นผู้ให้ความรักแก่ผู้อื่นเสียเอง
- เจ้าจะไม่เกิดไม่ตาย ไม่มาไม่ไป ด้วยเจ้าย่อมเป็นอมตะเพราะสภาวะอันเป็นนิรันดร์แห่งมหาปนิธานของเรา
- #โอวาทธรรม จากพระมารดาผู้สดับฟังเสียงของโลก#
ธรรมอันไม่แบ่งแยก คือ"โพธิ" # # # # ไม่เคยมีอะไรบนโลกนี้ # # # # * โลกนี้ไม่เคยมีอะไรตั้งแต่แรก * * เหมือน ดิน หิน คน สัตว์ ที่อันตรธานหายไปจากโลก * * เผยให้เห็นสภาวะของการไม่เคยมีอะไร * * วนเวียนอยู่เช่นนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า * * เสมือนภาพลวงตา (มายา) มาแล้วก็ไป * * ตามวาระของมัน (อนิจจัง) * * ไม่เคยมีใครบีบบังคับได้ (ทุกขัง) * * นี่คือ ความทุกข์ของโลก * * เพราะ * "โลกนี้ไม่เคยมีอะไรให้ใคร" (อนัตตา) * |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น