วันพุธที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2560

การพลิก"ฝ่ามือ"ของลูกๆคือโอสถ รักษาหัวใจอาม่า

ในภาพอาจจะมี 2 คน, ผู้คนกำลังยืน และ สถานที่กลางแจ้ง

การพลิก 
"ฝ่ามือ" 
ของลูกๆ คือโอสถ รักษาหัวใจอาม่า

หัวใจพระโพธิสัตว์นั้นยิ่งใหญ่
พลังชีวิตนั้นมากมายสุดประมาณด้วย..รัก

ออกจากโรงพยาบาล 
ก็ขึ้นเครื่องเดินทางโปรดเวไนยเลย


อาม่าไม่สนใจภัยพิบัติโลก 
เพราะถือว่าเป็นเรื่องของธรรมชาติ
ที่จะต้องเกิดขึ้นเป็นธรรมดา 
และเป็นแค่ปลายเหตุ
แต่ใช่ว่าจะทิ้งหรือละเลย
เมื่อมีเหตุ ก็ฉุดช่วยแก้ไขกันไป 
เกื้อกูล ลงพื้นที่ ดูแลฉุดช่วยกัน
แต่....
อาม่าให้ความสำคัญกับภัยพิบัติในจิตมนุษย์ 
ที่เกิดขึ้นทุกนาที ทุกวัน ทุกเวลา 
ในโลกใบนี้
สังคมขาดศีลธรรม ผิดผัวผิดเมีย
ลูกฆ่าพ่อแม่ เพื่อนมนุษย์ฆ่ากันทำร้ายกัน 
เบียดเบียนกัน ปล้นฆ่า เอารัดเอาเปรียบ 
ขาดการเกื้อกูลเห็นแก่ตัว 
กอบโกย ทำลายธรรมชาติ 
ทั้งภายในตนและธรรมชาตินอกตน

นี่ต่างหากล่ะ 
คือต้นเหตุของคำว่าภัยพิบัติจริง
หากภัยพิบัติในจิตมนุษย์เบาบางลง 
ความเห็นแก่ตัวเบาบางลง 
การทำร้ายการทำลายทั้งบุคคล
และ
การทำลายบรรยากาศธรรมชาติก็ลดน้อยลง
วันที่ลูกๆ มาพบอาม่า 
ล้วนมาด้วยความทุกข์ 
มาด้วยลักษณะ แบมือ ร้องขอ อ้อนวอน 
และ
มองไม่เห็นธรรมที่คลายทุกข์ลูกได้จริงๆ
แต่เมื่อเวลาผ่านไป 
ณ วันนี้ 
ลูกของอาม่าส่วนใหญ่ได้ยกระดับจิตวิญญาน 
พลิกมือที่เคยแบขอ 
จะเป็นผู้รับ ผู้จะเอา เป็น
"คว่ำ"
เพื่อเป็นผู้ให้ ผู้เกื้อกูล
ลูกรัก
สิ่งนี้แหละ คือพลังชีวิต
ที่เยียวยาหล่อเลี้ยงหัวใจอาม่า 
ให้สละทุกสิ่งได้เพื่อเดินต่อไป
ตามเจตนารมณ์ 

หลักๆ ที่มี 3ข้อ คือ
1.
ยกระดับจิตวิญญานลูกๆ 
ให้เข้าสู่จิตวิญญานระดับพระพุทธเจ้า
คือ 
กลับสู่ความเป็นพุทธะ จิตเดิมแท้แห่งตน
2.
เมื่อลูกๆยกระดับจิตวิญญานตนเองได้แล้ว 
จงเป็นอนันตประทีปแสงเทียน 
ฉุดช่วยเพื่อนมนุษย์ 
ให้มีพรหมวิหาร4 
เป็นแสงสว่างส่งต่อๆกันไป
3.
ช่วยขนรื้อภพภูมิ 
ตัดอบายให้แก่เวไนย 
ทั้งภาคหยาบ ภาคทิพย์
ในภาคหยาบ 
คือพลิกจิตปัจจุบัน
ให้เขาเข้าสู่เส้นทางถูกต้องดีงาม 
ยุติกรรม มีเสบียงก่อนที่จะสิ้นลมหายใจ
ในภาคทิพย์นั่น 
คือปลดปล่อยพลังงานมืด 
ที่ทุกข์ทรมานมากมายเต็มโลกธาตุในขณะนี้
ชีวิตอาม่า 
จึงเดินไปด้วยมหาปนิธาน 
อันมีพระพุทธเจ้า
และ
พระมหาโพธิสัตว์
เป็นต้นแบบแนวทางอันประเสริฐ
จงยกระดับจิตวิญญานตน 
ออกจากภัยพิบัติภายในกันเถิด
ลูกๆของอาม่า

อาม่า...พระเชนเรซิก...
ในภาพอาจจะมี เครื่องบิน, ท้องฟ้า, ธรรมชาติ และ สถานที่กลางแจ้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เปิดพลังแห่ง ความสุข.............

การให้เกียรติสิ่งรอบตัวถือเป็นการเปิดพลังแห่งทัศนคติใหม่ และยังเสริมการมองเห็นทัศนวิสัย ให้ก้าวสู่โลกที่มีคุณค่า และนอกจากนี้ยังทำให้คุณตื่นขึ้นมาเห็นความจริงรอบตัว ที่คุณอาจจะไม่เคยเห็น และรับรู้คุณค่าของสิ่งรอบตัวเรา หรือสังคมของเรา แล้วเรียนรู้ที่จะรักในสิ่งที่ควรรัก รักในสิ่งที่ให้ความรู้สึกดีๆที่ตอบแทนมาอย่างมีคุณค่าจริงๆ มันจะช่วยฉุดดึงให้คุณหลุดออกจาก อดีตที่เจ็บช้ำหรือแม้แต่ความยึดติดใดๆก็ตาม เชื่อหรือไม่ว่าสิ่งรอบตัวบางอย่างหรือหลายๆอย่างนั้น คุณอาจไม่เคยแยแส แม้แต่ก่อนที่จะพบเรื่องเศร้าด้วยซ้ำ
คำว่า “การให้เกียรติ” คำๆนี้คือวิถีคือครรลองที่สังคมของมนุษย์ที่มีจิตใจสูงในทางโลก ย่อมที่จะพัวพันกับภาวะของการให้เกียรติอยู่กันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการให้เกียรติต่อ บุคคล ให้เกียรติต่อสัญลักษณ์ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีค่าทางจิตใจ ให้เกียรติต่อสิ่งที่ยึดถือ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีบุญคุณ ในชีวิตเราและชีวิตท่านวันนี้คุณให้เกียรติคนที่คุณ "เกลียดชัง" พวกเขาแล้วหรือยัง.......

" โลกนี้จะร่มเป็นสุข อยากให้โลกนี้ดีงาม ให้เริ่มต้นที่ ใจ ตนเองเป็นอันดับแรก "

Glitter Photos

พระเชนเรซิก อวโลกิเตศวร มหาโพธิสัตว์

พระเชนเรซิก อวโลกิเตศวร มหาโพธิสัตว์