- 3 ปีก่อนในค่ำคืนหนึ่ง อาม่านั่งสมาธิในห้องพระ
- ช่วงนั้น ยังสับสน งุนงง ขัดแย้งในวิถีตนและไม่ยอมรับระบบพลังงานใดๆ
- มีบางอย่างทำให้อาม่ากำหนดเข้าไปดูจิตตนเอง ภายในของตนเอง
- อาม่าเห็นแสง 2 สาย สีขาวและสีนวลคู่กันในสายเดียว ก็ตามเข้าไปในแสงนั้นลึกเรื่อยๆๆๆ จนไปพบมังกร 2 องค์
- อาม่าตะโกนว่า"ท่านพี่" ทักทายเขา (งง เหมือนกัน เรียกได้ไง ไม่เคยรู้จัก)
- แต่ก็ยังพุ่งตรงไปตามลำแสง ไม่ได้หยุดแค่นั้น
- จนลำแสงนั้น จ้าขึ้นๆๆ สว่างขึ้น
- อาม่าก็รู้สึกอึดอัดมันบีบดวงจิต จนแทบทนไม่ไหว
- แต่อาม่าก็ยังฝืนเข้าไปลึกเรื่อยๆๆ
- จนพบแสงสว่างจ้ารัศมีกว้างใหญ่สุดประมาณ
- อยู่ๆอาม่าก็กรี้ดร้อง ตะโกนสุดเสียงว่า "อวโลกิเตศวรรรรรรรรรรรรรร"
- แล้วดวงจิตอาม่าก็ระเบิดแตกกระจายสลายไปรวมกับกลุ่มพลังแสงนั้น ***หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน
- ธาตุขันธ์อาม่าที่นั่งสมาธิอยู่ก็กระเด็นหงายหลัง ไปนอนฟุบ
- เจ็บร้าวไปทั้งตัว กว่าจะลุกขึ้นนั่งได้
- ตั้งแต่วันนั้น .......อาม่าก็สิ้นสงสัยในพระองค์ท่านและสิ้นสงสัยในตน
- หมายเหตุ#โปรดใช้วิจารณญานในการอ่านแค่แบ่งปันประสบการณ์ส่วนตน#
- ในห้วงอากาศอันว่างเปล่า พระองค์เป็นสิ่งเร้นลับเข้าใจยาก
- ไม่สามารถกล่าวเป็นคำพูด คำเขียนได้ทั้งหมด
- พระองค์ไม่มีนาม ไม่มีรูป ไม่มีเพศ
- ไม่มีความหนาแน่นหรือบอบบาง
- ไม่มีความสั้นยาว ไม่มีสี ไม่มีน้ำหนัก
- ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มีเพิ่มหรือน้อยลง
- ไม่สามารถวัดหรือคำนวณได้
- ไม่มีการมาการไป
- ไม่สามารถใช้ญานโลกียะ ผ่านอายตนะ 6 สัมผัสได้
- แต่ทรง สถิตอยู่ทั่วไป ทุกหนแห่ง ทั้งจักรวาล
- และจักรวาลนั้นเล่า อยู่ในจิตตน
- "นะโม รัตนะตรายายะ นะโมอารยะ อวโลกิเตศะวะระยะ
- โพธิสัตตวายะ มหาสัตตวายะ โอม สวาหะ"
- อาม่า#พระเชนเรซิก#
วันอาทิตย์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2560
#พระอวโล มีตัวมีตน ซะที่ไหนเล่า ท่านเป็นพลังงานที่ไร้รูป
เปิดพลังแห่ง ความสุข.............
การให้เกียรติสิ่งรอบตัวถือเป็นการเปิดพลังแห่งทัศนคติใหม่ และยังเสริมการมองเห็นทัศนวิสัย ให้ก้าวสู่โลกที่มีคุณค่า และนอกจากนี้ยังทำให้คุณตื่นขึ้นมาเห็นความจริงรอบตัว ที่คุณอาจจะไม่เคยเห็น และรับรู้คุณค่าของสิ่งรอบตัวเรา หรือสังคมของเรา แล้วเรียนรู้ที่จะรักในสิ่งที่ควรรัก รักในสิ่งที่ให้ความรู้สึกดีๆที่ตอบแทนมาอย่างมีคุณค่าจริงๆ มันจะช่วยฉุดดึงให้คุณหลุดออกจาก อดีตที่เจ็บช้ำหรือแม้แต่ความยึดติดใดๆก็ตาม เชื่อหรือไม่ว่าสิ่งรอบตัวบางอย่างหรือหลายๆอย่างนั้น คุณอาจไม่เคยแยแส แม้แต่ก่อนที่จะพบเรื่องเศร้าด้วยซ้ำ
คำว่า “การให้เกียรติ” คำๆนี้คือวิถีคือครรลองที่สังคมของมนุษย์ที่มีจิตใจสูงในทางโลก ย่อมที่จะพัวพันกับภาวะของการให้เกียรติอยู่กันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการให้เกียรติต่อ บุคคล ให้เกียรติต่อสัญลักษณ์ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีค่าทางจิตใจ ให้เกียรติต่อสิ่งที่ยึดถือ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีบุญคุณ ในชีวิตเราและชีวิตท่านวันนี้คุณให้เกียรติคนที่คุณ "เกลียดชัง" พวกเขาแล้วหรือยัง.......
" โลกนี้จะร่มเป็นสุข อยากให้โลกนี้ดีงาม ให้เริ่มต้นที่ ใจ ตนเองเป็นอันดับแรก "
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น