#ธรรมเปิดทำ#ตอนที่2
คุณจะรู้วิถีธรรมของพระพุทธ
ก็ต่อเมื่อคุณเป็นพุทธะเองแ
ยก.ตย เช่น สมัยพุทธกาล
พระพุทธเจ้าเคยเสด็จไปงานแต
แล้วออกอุปายะ หรืออุบายให้เจ้าชายนันทะ
ซึ่งเป็นเจ้าบ่าว อุ้มบาตรพระองค์มาส่งที่ที่
***ทั้งที่มีภิกษุที่ติดตาม
ทำไมต้องเป็นเจ้าบ่าว ที่ต้องทิ้งงานแต่งงานมา
เมื่อมาถึงกุฎิ พระพุทธองค์ก็จับเจ้าชายนัน
ทำให้ไม่ได้กลับเข้างานแต่ง
***นี่คืออุบายที่1ของพระอง
แต่ด้วย การพลัดพรากอย่างกระทันหัน
ทำให้พระนันทะ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ
คิดถึงแต่เจ้าสาว ไม่ตั้งใจวัตรปฏิบัติใดๆ
พระพุทธองค์จึงพาพระนันทะ ขึ้นไปบนสวรรค์ให้เห็นนางฟ้
ซึ่งสวยกว่า เจ้าสาว นี่คือเอาเหยื่อใหม่มาล่อ
(เปรียบเหมือนให้ทิ้งภาวะปุ
นี่คือ อุปายะ2
จากนั้น..ก็ออกอุปายะ3 ว่า
ถ้าพระนันทะ ตั้งใจปฎิบัติจนบรรลุมรรคผล
กลับมา พระนันทะ ก็ลืมเจ้าสาว
เพราะมีจุดมุ่ง
สุดท้าย พระนันทะ ก็สำเร็จธรรม เพราะอยากได้นางฟ้าเป็นเมีย
****แต่มาถึงจุดนี้ พระนันทะ ไม่ต้องการนางฟ้าอีกแล้ว นางฟ้าจะมีประโยชน์อันใดเล่
เปรียบได้ว่า
เจ้าสาว คือภาวะ ปุถุชน ที่ถูกจูงใจให้ละทิ้ง
นางฟ้า คือภาวะ อริยะ ที่อธิบายเป็นขั้นตอนให้ไขว
และมรรคผลนิพพานคือภาวะ
การหมดอยากเอานางฟ้าทำเมียแ
#ที่เคยคิดว่าต้องเอาให้ได้ ระหว่างเดินทาง มันยุติแล้ว#
ดังนั้นนิพพาน คือการหยุด
คือการโมฆะทุกสิ่ง หมดความ "อยาก"ใดๆ อีกแล้ว
คือสภาวะสุดท้าย หรือการโบยบินสู่โลกุตตระธร
ธรรมะนั้นเปรียบเหมือนเรือแ
เช่นเดียวกัน เมื่อเราข้ามฝั่งแล้ว
จำเป็นไหม ที่ต้องแบกเรือขึ้นฝั่งไปทำ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น