วันพุธที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

สุญญตาวิหารธรรม จิตเดิมแท้ หรือ "จิตอวตาร"

ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังยืน, ท้องฟ้า, สถานที่กลางแจ้ง และ ธรรมชาติ

  • ทุกวันนี้ เวลาลูกๆอยู่กับอาม่า จะต้องแยกกันเองว่า 
  • ไหนคุยกับอาม่า ไหนคุยกับบางสิ่งที่อยู่ในอาม่า 
  • เพราะ มันหลอมรวม เป็นหนึ่งเดียว จนแยกไม่ถูก
  • คุณเคยเป็นคน 2 วิญญานไหม
  • ในขณะที่คุณยังเป็นคุณ แต่มีใครอีกคน อยู่ในคุณ
  • แฝงตัว สงบนิ่ง เงียบเชียบ มาเนิ่นนาน
  • อาจเคยสงสัย อาจเคยรู้สึก และเขาอาจเคยแสดงตนมาในรูปแบบ นิมิต ลางสังหรณ์
  • จวบจน วันหนึ่ง ที่เขาแสดงตน จนความเป็นเรามันจางหายไป ที่ละน้อยๆๆๆ
  • รู้สึกอีกที ความเป็นเรา ชีวิตเรามันก็เหลือน้อยและเปลี่ยนไปเกือบหมดแล้ว
  • เคยไหม....ที่คุยกับใคร แล้วอีกคนออกมาทายทักพยากรณ์ ตักเตือน โดยที่เราก็ยังเป็นเรา
  • เคยไหม...ที่สื่อธรรม แสดงธรรม เขียนธรรม 
  • ชนิดที่ว่า เรากลับมาอ่าน แล้วอุทานในใจว่า
  • เฮ้ย!!!! นี่กูเขียนหรือเนี่ย????
  • เคยไหม...ที่ตื่นมากลางดึก ตี 2 ตี 3 เห็นคนที่รูปร่าง หน้าตา เสื้อผ้า เหมือนตัวเอง เข้ามาในห้องนอน เหมือนเพิ่งกลับมา แล้วเดินหายเข้ามาในตัวเรา
  • เคยไหม...ที่ล้มตัวลงนอน แล้วมีเสียงคุยกัน ทั้งที่เรา ไม่ได้พูด
  • เคยไหม...ที่เราไปหาคนนั้น คนโน้น ในความฝัน ช่วยเหลือ บำบัด รักษา หรือไปลอย อยู่บนหลังคาบ้าน โดยคนที่ฝันเห็นกันนั้น บอกว่าเป็น "เรา"
  • และยัง จริยวัตร ที่เปลี่ยนไป สารพัดอย่าง

  • สิ่งนี้...จะเกิดกับ ผู้ที่เกิดมาพร้อมหน้าที่ หรือผู้ที่มีสัญญา ก่อนมาเกิด
  • แน่นอน!!! ทุกดวงจิต เกิดมาย่อมลืมทุกสิ่ง และเป็นไปตามวิถีโลก
  • และเราก็สุดเหวี่ยงเช่นกัน กับโลกียะ เพื่อเป็นประสบการณ์จริง มาสอนธรรมได้
  • จิตอีกดวง จะพยายามทวงสัจจะ พยายามฟื้นสัญญาความจำ พยายามแสดงตน อย่างเงียบเชียบเร้นลับมานาน
  • ***เขารอวันหลอมรวมกับเรา***
  • แต่เขาจะออกทำหน้าที่ หรือแสดงตน ยามจิตอีกดวงอยู่ในภวังค์ เช่น หลับ หรือหมดสติ
  • แต่เมื่อใด ที่เราตื่น และตื่น และเราว่างเข้าสู่สุญญตาวิหารได้ สิ่งที่จะกลับมาคือ
  • วิปัสสนาญาน
  • มโนมยิทธิญาน
  • อิทธิวิธิญาน
  • ปุพเพนิวาสานุสสติญาน หรือ การระลึกชาติ
  • นั่นคือ การหลอมรวมของจิตสองดวงได้อุบัติขึ้นแล้ว
  • จิตอีกดวง นั้นแหละ คือจิตที่มีหน้าที่ ที่เรียกว่า จิตเดิมแท้ หรือ "จิตอวตาร"
  • #ประตูบานเดียว ที่จะเปิดเชื่อมต่อหลอมรวมได้ คือ สุญญตาวิหารธรรม#

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เปิดพลังแห่ง ความสุข.............

การให้เกียรติสิ่งรอบตัวถือเป็นการเปิดพลังแห่งทัศนคติใหม่ และยังเสริมการมองเห็นทัศนวิสัย ให้ก้าวสู่โลกที่มีคุณค่า และนอกจากนี้ยังทำให้คุณตื่นขึ้นมาเห็นความจริงรอบตัว ที่คุณอาจจะไม่เคยเห็น และรับรู้คุณค่าของสิ่งรอบตัวเรา หรือสังคมของเรา แล้วเรียนรู้ที่จะรักในสิ่งที่ควรรัก รักในสิ่งที่ให้ความรู้สึกดีๆที่ตอบแทนมาอย่างมีคุณค่าจริงๆ มันจะช่วยฉุดดึงให้คุณหลุดออกจาก อดีตที่เจ็บช้ำหรือแม้แต่ความยึดติดใดๆก็ตาม เชื่อหรือไม่ว่าสิ่งรอบตัวบางอย่างหรือหลายๆอย่างนั้น คุณอาจไม่เคยแยแส แม้แต่ก่อนที่จะพบเรื่องเศร้าด้วยซ้ำ
คำว่า “การให้เกียรติ” คำๆนี้คือวิถีคือครรลองที่สังคมของมนุษย์ที่มีจิตใจสูงในทางโลก ย่อมที่จะพัวพันกับภาวะของการให้เกียรติอยู่กันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการให้เกียรติต่อ บุคคล ให้เกียรติต่อสัญลักษณ์ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีค่าทางจิตใจ ให้เกียรติต่อสิ่งที่ยึดถือ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีบุญคุณ ในชีวิตเราและชีวิตท่านวันนี้คุณให้เกียรติคนที่คุณ "เกลียดชัง" พวกเขาแล้วหรือยัง.......

" โลกนี้จะร่มเป็นสุข อยากให้โลกนี้ดีงาม ให้เริ่มต้นที่ ใจ ตนเองเป็นอันดับแรก "

Glitter Photos

พระเชนเรซิก อวโลกิเตศวร มหาโพธิสัตว์

พระเชนเรซิก อวโลกิเตศวร มหาโพธิสัตว์