- หลายคนสงสัย ทำไมอาม่าจึงสอนว่าโพธิจิตนี้ เป็นทางลัดเข้าสู่มรรคผลนิพพานและสามารถยกจิตเข้าสู่ระดับพระพุทธเจ้าได้ และมหาปนิธานมาจากไหน ??
- ส่วนใหญ่มาจากการเคยเกิดเป็นมนุษย์ในกาลก่อน ออกบวชได้พบพระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่งแล้วศรัทธาเลื่อมใส ในพุทธิจริยา และปฏิปทาแห่งพระพุทธองค์
- จึงตั้งปนิธานด้วยจิตกรุณาอย่างขีดสุดต่อหน้าพระพุทธองค์ ประสงค์ต้องการช่วยสรรพสัตว์ให้หลุดพ้น
- ***ขอบอกว่า อธิษฐานนั้น ผ่านการรับรู้ เข้าสู่จิตพระพุทธองค์ทั้งสิ้น****
- เมื่อพุทธจิตอันเข้มแข็งผสานกับมหาปนิธานอันแรงกล้า และการบำเพ็ญสืบต่อปนิธานยาวนานต่อเนื่อง ***ภาวะทิพย์จะปรากฎรองรับพุทธิปัญญาและมหากรุณา ****ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาๆของกฎเหตุและผล
- เมื่อจิตของบุคคลสั่งสมบารมีด้วยการทำความดี และอธิษฐานจิตเพื่อผู้อื่นตลอดเวลา การดำเนินชีวิตอันยาวนานในสังสารวัฏด้วยอุดมการณ์แห่งพระโพธิสัตว์
- พลังนั้น...ย่อมบริสุทธิ์ ความบริสุทธิ์ จะสะท้อนออกมาเป็นพระคุณทั้งสาม คือ มหาปัญญา มหากรุณา และมหาอุปายะ(อุบายธรรม)
- พระคุณเหล่านี้ เมื่อปรากฎในดวงจิตใด ก็จะเป็นแสงสว่างช่วงโชติหล่อเลี้ยงสังสารวัฎ พลังแห่งความกรุณานั้น ใครจะคิดเล่าว่าจะมีอานุภาพมากมายหล่อหลอมเป็น "พละบารมี" คือบุญฤทธิ์ อิทธิฤทธิ์ อานุภาพ
- แล้วยังสะท้อนออกมาเสริมทศบารมีอื่นๆ ที่บำเพ็ญอีกด้วย เพื่อประโยชน์ต่อเวไนยสัตว์ตามจริต
- จิตที่ตั้งเจตจำนงค์โพธิสัตว์ นั้นล้วนมุ่งมั่นให้เวไนยตระหนักรู้ในตนเอง แทนคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยตรง อธิบายธรรมะให้เป็นเรื่องจิตและกระบวนการการทำงานของจิตทั้งสิ้น
- สมมุติและปรมัตถ์ของพระโพธิสัตว์จึงมิได้แยกจากกัน ด้วยการเข้าใจบ่มเพาะธรรมอิงอาศัยมานานแสนนาน
- ภาวะโพธิสัตว์จึงข้ามผ่านตัวตน ศักยภาพ ความสามารถทางจิตจึงเป็นเรื่องธรรมดาๆ ที่ให้ค่าได้แค่อุปายะไม่ตื่นเต้นกับ ญาน ฌาน ปาฎิหารย์ใดๆ แต่....หยิบยกมาใช้ได้ ตามจริตสัตว์
- ให้ค่าได้แค่ความจริงของธรรมชาติ ที่เป็นธรรมโดยธรรม ด้วยการมองโลกด้วยพุทธิจริต คือ "ตถตา" เท่านั้น
- ##พวกลื้อ เห็นและซาบซึ้งในพุทธิจริยาพระพุทธเจ้าเอง แล้วเลื่อมใส อธิษฐานเอง ตั้งปนิธานเองเบื้องต่อหน้าพระพักตร์
- กล้าผิดสัจจะ ถอนสัจจะ ต่อตนเองหรือ?????
วันพฤหัสบดีที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2560
มหาปนิธานมาจากไหน
เปิดพลังแห่ง ความสุข.............
การให้เกียรติสิ่งรอบตัวถือเป็นการเปิดพลังแห่งทัศนคติใหม่ และยังเสริมการมองเห็นทัศนวิสัย ให้ก้าวสู่โลกที่มีคุณค่า และนอกจากนี้ยังทำให้คุณตื่นขึ้นมาเห็นความจริงรอบตัว ที่คุณอาจจะไม่เคยเห็น และรับรู้คุณค่าของสิ่งรอบตัวเรา หรือสังคมของเรา แล้วเรียนรู้ที่จะรักในสิ่งที่ควรรัก รักในสิ่งที่ให้ความรู้สึกดีๆที่ตอบแทนมาอย่างมีคุณค่าจริงๆ มันจะช่วยฉุดดึงให้คุณหลุดออกจาก อดีตที่เจ็บช้ำหรือแม้แต่ความยึดติดใดๆก็ตาม เชื่อหรือไม่ว่าสิ่งรอบตัวบางอย่างหรือหลายๆอย่างนั้น คุณอาจไม่เคยแยแส แม้แต่ก่อนที่จะพบเรื่องเศร้าด้วยซ้ำ
คำว่า “การให้เกียรติ” คำๆนี้คือวิถีคือครรลองที่สังคมของมนุษย์ที่มีจิตใจสูงในทางโลก ย่อมที่จะพัวพันกับภาวะของการให้เกียรติอยู่กันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการให้เกียรติต่อ บุคคล ให้เกียรติต่อสัญลักษณ์ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีค่าทางจิตใจ ให้เกียรติต่อสิ่งที่ยึดถือ ให้เกียรติต่อสิ่งที่มีบุญคุณ ในชีวิตเราและชีวิตท่านวันนี้คุณให้เกียรติคนที่คุณ "เกลียดชัง" พวกเขาแล้วหรือยัง.......
" โลกนี้จะร่มเป็นสุข อยากให้โลกนี้ดีงาม ให้เริ่มต้นที่ ใจ ตนเองเป็นอันดับแรก "
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น