เชนเรซิก...ลูกพ่อ
- พุทธกายของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ เกิดจากมหาปนิธาน และพระคุณอันมหาศาลของเหล่าบุคคลที่เรียกว่า"พระโพธิสัตว์"มาก่อนทั้งสิ้น
- ผู้ที่มีจิตตั้งมั่น สั่งสมความดีงาม ยาวนาน อันไม่มีประมาณ จนกำลังของจิตนั้น เข้มแข็งและบริสุทธิ์
- และจิตที่บริสุทธิ์นั้นก็ต้องประกอบด้วยปัญญาญาน และมหากรุณา อันประมาณมิได้ด้วย
- มหาปัญญา มหากรุณา เป็นพลังงานทางจิตที่สามารถสำแดงเป็นรูปลักษณ์อะไรออกมาก็ได้ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการเกื้อกูล
- และรูปลักษณ์ในรูปแบบพระพุทธเจ้าก็มาจากพลังงานทางจิตอันไม่มีที่สุดนั้น
- ความต้องการช่วยเหลือสรรพสัตว์เป็นธรรมชาติธรรมดาอยู่แล้วของบุคคลที่มีเชื้อแห่งโครตวงศ์คือหน่อเนื้อพุทธางกูร
- และธรรมชาติแห่งการออกเกื้อกูลสรรพสัตว์นั้น ก็เกิดจากการหยั่งเห็นความจริงของการอิงอาศัยซึ่งกันและกัน(ตถตา)
- สิ่งนี้ บ่มเพาะจากสติปัญญาอันหล่อหลอมมายาวนานในสังสารวัฏ เห็นความจริงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความจริงจึงไม่สามารถแยกขาดจากปัญญา
- และเพราะมีปัญญา จึงเห็นความว่างใน"ความมี"
- ในขณะเดียวกัน ก็เห็นความมีใน"ความว่าง"
- สิ่งทั้งหลายทั้งปวงล้วนอาศัยกันเพื่อการมีอยู่
- ไม่มีอะไรโดดเดี่ยวจากสิ่งอื่นได้ เช่น
- ถ้ามนุษย์ไม่มี"จิต"ไปสัมผัส วัตถุทั้งหลายในโลกก็ไร้ความหมาย
- แม้พุทธกาย แห่งพระพุทธเจ้า ก็มีได้เพราะเหตุปัจจัยกำหนดมาเช่นกัน ไม่ใช่ภาวะลอยๆแยกขาดจากทุกสิ่ง
- ดังนั้น การมีพระพุทธเจ้าอุบัติในโลก ก็เพราะ มีบุคคลที่มีภาวะแห่งจิตอันยิ่งใหญ่พอ ที่จะกล้าข้ามผ่าน และรองรับทุกข์กายทุกข์ใจของสรรพสัตว์ ที่เรียกว่า "พระโพธิสัตว์นั่นเอง"
- ***จึงเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะกราบพระพุทธเจ้า แล้วปฏิเสธพระโพธิสัตว์****
- เพราะถ้าบุคคลใดคิดเช่นนั้น เขาก็ยังเป็นผู้ที่ร่วงหล่นทวิภาวะ จิตยังตกอยู่ในการแบ่งแยก
- และเข้าไม่ถึง อิทัปปัจยตาหรือธรรมปฎิจสมุปบาท ธรรมะแห่งการอิงอาศัยเลย
- ลูกพ่อ...จงอย่าใส่แก่นสารใดๆลงในวิมุตติธรรม หรือปรมัตถ์ธรรม แล้วเส้นทางของเจ้าจะไร้ทิฐิธรรม ใดๆ หยั่งอยู่ในความว่างหรือสุญญตาวิหารธรรม
- และวิหารธรรมนี้จะเป็นพลังงานหล่อเลี้ยงสังสารวัฎนี้ โดยมีมหาปัญญา มหากรุณาและมหาอุปายะเป็นฐานอันมั่นคงไม่คลอนแคลน
- 3 สิ่งนี้ เมื่อมาหลอมรวมกันจะเกื้อกูลสังสารวัฏได้ หรือที่เรียกกันว่า"พุทธานุภาพ"นั่นเอง
- #โอวาทธรรม จากพระบิดาอมิตภะตถาคตเจ้า#
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น